อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 125 อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 125
หน้าที่ 125 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในหน้านี้กล่าวถึงการอธิบายขันธ์ที่เกี่ยวข้องกับจิตและธรรมชาติของอารมณ์ อธิบายถึงกาลที่เป็นอเหตุกะ รวมถึงความไม่มีอำนาจของปฏิสนธิกาลที่ส่งผลต่อความเป็นไปของจิตซึ่งให้ความเข้าใจในเรื่องของสันตีรณะที่สหรคตด้วยสุข ท่านอาจารย์ยังอธิบายเกี่ยวกับกุสลากุสลกุริยาจิตฺตานิ และอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ของจิตในขั้นต่าง ๆ รวมถึงการมีวิสัยที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่จิตสัมผัส

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของขันธ์
-การอธิบายจิตในอภิธัมมัตถสังคหบาลี
-บทบาทของปฏิสนธิกาล
-ธรรมชาติของกุสลากุสลกุริยาจิตฺตานิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

બૈ ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 125 ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยสุขเป็นอเหตุกะ ฯลฯ ขันธ์ ๒ ดังนี้ ฯ แต่ไม่ทางยกปฏิจจนัยขึ้นด้วยอำนาจปฏิสนธิกาล โดยนัย เป็นต้นว่า ในขณะแห่งปฏิสนธิที่เป็นอเหตุกะ ฯ เพราะฉะนั้น แม้ การไม่ตรัสธรรมที่ไม่ได้ในยถาธรรมศาสน์ ก็แสดงความไม่มีแห่ง ธรรมนั้นนั่นเอง เพราะฉะนั้น ความเป็นไปแห่งสันตีรณะที่สหรคต ด้วนสุขนั้น จึงไม่มีด้วยอำนาจแห่งปฏิสนธิกาล ฯ ก็การไม่ตรัสธรรม อะไร ๆ แม้ที่ได้อยู่ในที่ใด เหตุในที่นั้นจักมีแจ้งข้างหน้าฯ ชวนกิจ ย่อมไม่มีแก่มโนทวาราวัชชนะ แม้เป็นไปอยู่ ๒-๓ ครั้งในปริตตารมณ์ เพราะมีไม่การ เสวยรสแห่งอารมณ์นั้น เพราะเหตุนั้น ท่านอาจารย์จึง กล่าวว่า เว้นอาวัชชนะทั้ง ๒ ฯ ก็เพราะอธิบายอย่างนี้ พระอรรถ- กถาจารย์จึงกล่าวไว้ในอรรถกถาว่า ตั้งอยู่แล้วในฐานแห่งชวนะ ฯ เมื่อถือเอาความโดยประการอื่น มโนทวาราวัชชนะก็ควรกล่าวได้ว่า เป็นชวนดังนี้แล ฯ [แสดงจำนวนของจิต] คำว่า กุสลากุสลกุริยาจิตฺตานิ ได้แก่ จิตที่เป็นโลกิยกุศลและ โลกุตตรกุศล ๒๑ เป็นอกุศล ๑๒ โลกุตตรผลจิต ๔ และกิริยาจิต ที่เป็นไปในภูมิสาม ๑๘ฯ จริงอยู่ จิตมีโลกุตตรมรรคจิตเป็นต้น แม้ ชั่วขณะจิตเดียว ก็ชื่อว่าชวนกิจ เพราะมีการเสวยรสแห่งอารมณ์นั้น เป็นสภาพ เหมือนพระสัพพัญญุตญาณ แม้มีอารมณ์อย่างหนึ่ง ๆ เป็น วิสัย ย่อมไม่ละซึ่งนามนั้นในกาลบางครั้ง เพราะประกอบด้วยความ สามารถในการรู้ซึ่งอารมณ์ทั้งสิ้น ฉะนั้นแล ฯ ท่านอาจารย์กล่าวว่า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More