'analyse บทความอภิธัมมัตถสังคหบาลี อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 364
หน้าที่ 364 / 442

สรุปเนื้อหา

บทความนี้วิเคราะห์แนวคิดที่สำคัญในอภิธัมมัตถสังคหบาลีเกี่ยวกับปัจจัยและเวลาในธรรม โดยชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตในแง่มุมต่างๆ จากอวิชชาและสังขารถึงการเกิดผลในชีวิต ฯลฯ นำเสนอแนวทางการศึกษาในธรรมและองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด โดยมีความเข้าใจลึกซึ้งในสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในแต่ละช่วงเวลา ตามหลักการของการปฏิจจสมุปบาทและปรัชญาอภิธัมม์

หัวข้อประเด็น

-แนวคิดอภิธัมมัตถสังคหบาลี
-ปัจจัยและเวลาในธรรม
-การเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคต
-ความหมายและการใช้งานของอวิชชา
-ผลของความทุกข์และการเกิดขึ้นในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 364 เจ้าเป็นต้น และทั้งไม่ใช่เป็นความเกิดขึ้นแห่งสภาพมีความสุขและความ สวยงามเป็นต้นฯ (นัยอย่างนี้ชื่อว่าปฏิจจสมุปบาทนัย) ในอธิการนี้ คือ ในอธิการแห่งปัจจัยสังคหะนี้ ฯ [อธิบายอัทธาเป็นต้น] กาลที่ชื่อว่าอัทธา เพราะอรรถว่า ไปอยู่เสมอ คือดำเนินไป ได้แก่เป็นไปอยู่เนืองนิจติดต่อ ฯ อวิชชาและสังขารเป็นอดีตทธา เพราะ เหตุที่นับเนื่องในภพเป็นอดีตนั่นแล ท่านประสงค์เอาในอัทธาปรจฉัน นาธิการนี้ ฯ ก็ด้วย อัทธา ศัพท์ หมายเอาพวกธรรมมีอวิชชาเป็นต้น นั่นเอง เพราะกาละอะไร ๆ ที่พ้น ที่พ้นไปจากธรรมนั้นหาไม่ได้ฯ จริงอยู่ ธรรมทั้งหลายที่ดับไปแล้วและยังไม่เกิดขึ้นนั่นแล บัณฑิตย่อมกล่าว ด้วยอำนาจแห่งอดีตกาลและอนาคตกาล, ส่วนธรรมที่นับเนื่องในขณะ ทั้ง ๓ มีอุปาทขณะเป็นต้น ท่านกล่าวด้วยอำนาจแห่งปัจจุบันกาล ฯ ชาติชราและมรณะ ชื่อว่าอนาคตทธา เพราะจะเกิดในอนาคต จากเหตุปัจจุบัน ฯ คำว่า มชฺเญ อฏฺฐ ปจฺจุปันโน อทธา ความว่า องค์ ๘ มีวิญญาณเป็นต้นในท่ามกลาง ชื่อว่าเป็นปัจจุบันนัทธา เพราะ องค์เหล่านั้นเป็นผลซึ่งเกิดในภพนี้จากอดีตเหตุ และเพราะมีสภาพเป็น เหตุในภพนี้แก่อนาคตผลฯ ท่านอาจารย์ทำในใจถึงการท้วงว่า แม้ โสกะและปริเทวะเป็นต้น ควรกล่าวไว้ โดยความเป็นองค์มิใช่หรือ จึงกล่าวคำเปีนต้นว่า โสกาทิวจน์ ฯ อธิบายว่า คำว่า โสกะเป็นต้น เป็นการแสดงผลที่ไหลออกแห่งชาติ คือเพียงผลที่ไม่เป็นเหตุฯ แต่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More