ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 146
แต่ในอติอิฏฐารมณ์ สันตีรณะและตทาลัมพนะสหรคตด้วยโสมนัสอย่าง
เดียว ฯ แม้ในบรรดาตทาลัมพนะเหล่านั้น ตทาลัมพนะที่สหรคตด้วย
โสมนัสเท่านั้นมีในที่สุแห่งกิริยาชวนะที่สหรคตด้วยโสมนัสฯ ที่หรคต
ด้วยอุเบกขามีในที่สุดแห่งกิริยาชวนะที่สหรคตด้วยอุเบกขาฯ แต่ในที่
สุดแห่งชวนะที่สหรคตด้วยโสมนัส ตทาลัมพนะและภวังค์ เป็นธรรม
ชาติสหรคตด้วยอุเบกขาอย่างเดียว ฯ เพราะฉะนั้น อาจารย์ทั้งหลาย
จึงกล่าวว่า ถ้าหากว่า สำหรับสัตว์ผู้มีปฏิสนธิประกอบด้วยโสมนัส
ตทาลัมพนะไม่เกิดในที่สุแห่งชวนะที่สหรคตด้วยโทมนัส ในเวลานั้น
สันตีรณะสหรคตด้วยอุเบกขาปรารภอารมณ์เป็นกามาวจร ที่เคยสั่งสมไว้
อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ภวังคบาต (จิตตกภวังค์) ทำสันตีรณะ
สหรคตด้วยอุเบกขานั้นไม่ให้แยกไปจากตนฯ อนึ่ง อาจารย์ทั้งหลาย
ย่อมปรารถนาตทาลัมพนะในกามาวจรธรรมทั้งหลาย ที่เป็นอารมณ์ของ
กามาวจรสัตว์เหมือนกันในที่สุดแห่งกามาวจรชวนะ ฉะนี้แล ฯ
[สังคหคาถา]
ในกามภพ เมื่อมีความนิยมชวนะ สัตว์
(บุคคล) และอารมณ์ ท่านก็กล่าว
ตทาลัมพนะไว้แต่ในวิภูตารมณ์ และ
อติมหันตารมณ์เท่านั้น ๆ
นี้เป็นตทาลัมพนนิยมในวิถีสังคหะนี้ ฯ
ๆ
ก็บรรดาชวนะ กามาวจรชวนะ ในกามาวจรชวนวิธี ย่อมแล่น