ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 253
ทีป และตราเป็นต้นฉะนั้น พอกันทีไม่ควรจะชักช้าเกินไป ฯ ชวนะ
ทั้งหลายเป็นของน้อยเป็นไป ชื่อว่าเป็นไปน้อย ๆ อธิบายว่า "เมื่อ
อารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน มาสู่คลองในมโนทวาร ด้วยอำนาจคตินิมิต ใน
ปัญจทวาร ด้วยอำนาจกรรมนิมิต" ฯ
ๆ
[อธิบายอารมณ์ของปฏิสนธิและภวังค์]
หลายบทว่า ปฏิสนธิ ฯเปฯ สพภติ ความว่า ปฏิสนธิและ
ภวังค์ทั้ง ๔ มีอารมณ์เป็นปัจจุบัน ย่อมได้ในมโนทวารก่อน แต่เฉพาะ
ปฏิสนธิมีอารมณ์เป็นปัจจุบันได้ในปัญจทวาร ฯ จริงอย่างนั้น ในคำว่า
"ปฏิสนธิ ฯเปฯ ลพภูติ" นี้ มีความสังเขปดังนี้คือ "เมื่อจุติจิต
เกิดขึ้นแล้วในลำดับแห่งวิถีจิต อันมีตทาลัมพนะเป็นที่สุด ซึ่งปรารภ
คตินิมิตเป็นปัจจุบัน อันมาสู่คลองในมโนทวารของบางสัตว์เกิดขึ้นใน
ลำดับแห่งจุติจิตนั้น ย่อมได้ความเป็นไปแห่งปฏิสนธิที่เป็นไปแล้วใน
อารมณ์ ซึ่งมีอายุชั่ว ๕ ขณะจิต และย่อมได้ความเป็นไปแห่งภวังค์
ทั้ง ๔ และย่อมได้ความเป็นไปในอารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน แห่งปฏิสนธิ
ที่เป็นไปแล้วในอารมณ์ ซึ่งมีอายุชั่วขณะจิต ๑ ในระหว่างวิถีจิตที่
ปรารภวรรณะ (สี) เป็นต้น ในไทยธรรมทั้งหลาย อันเหล่าชนมีญาติ
เป็นต้นนำเข้าไปตั้งไว้เฉพาะ เป็นไปแล้วตามสมควรในปัญจทวาร และ
ในระหว่างแห่งจุติจิต"ฯ ส่วนความพิสดาร ผู้ศึกษาควรตรวจดู โดย
นัยที่ท่านกล่าวไว้ในปกรณ์วิเสสวิสุทธิมรรค หรือในวรรณนาแห่งบทว่า
วิญญาณมี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ในอรรถกถาแห่งวิภังค์ ฯ
นี้
ด
ในคำว่า ฉทวารคุคหิต นี้ บัณฑิตพึงประกอบคำตามสมควร