ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 194
วจีกรรม เพราะเป็นไปโดยมากในวจีทวาร กล่าวคือวจีวิญญัติ ฯ
อภิชฌา ความเพ่งเล็ง ๑ พยาบาท ความปองร้าย ๑ มิจฉาทิฏฐิ
ความเห็นผิด ๑ (๓ อย่างนี้) ชื่อว่ามโนกรรม เพราะแม้เว้นจาก
วิญญัติ ก็เป็นไปโดยมากเฉพาะในทางใจ ฯ
[สมุฏฐานที่เกิดของอกุศลกรรมบถ ๑๐]
บรรดาอกุศลกรรมบถ ๑๐
เหล่านั้น ปาณาติบาต ๑ ผรุสวาจา ๑
ๆ
พยาบาท ๑ เกิดโดยมีโทสะเป็นมูลฯ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ อภิชฌา ๑
มิจฉาทิฏฐิ ๑ เกิดโดยมีโลภะเป็นมูลฯ แม้อีก ๔ อย่างที่เหลือ ย่อม
เกิดมีได้โดยมูลทั้ง ๓ อย่าง ฯ คือกุศลนี้ มี ๑๒ อย่าง แม้โดยประการ
ทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งจิตตุปบาท (คือจิตที่เกิดขึ้น) ฯ แม้กามา
วจรกุศล ก็มี ๓ อย่าง ด้วยอำนาจแห่งทวารของกรรม คือที่เป็นไป
ในกายทวาร ชื่อว่ากายกรรม ที่เป็นไปในวจีทวาร ชื่อว่าวจีกรรม
และที่เป็นไปในมโนทวาร ชื่อว่ามโนกรรมฯ อนึ่ง กามาวจรกุศลนี้ก็มี
๓ อย่าง ด้วยอำนาจแห่ง ทาน ศีล และภาวนา ฯ แต่ด้วยอำนาจาจิตตุป
บาท กามาวจรกุศลนี้มี 4 อย่าง ฯ มีอีก ๑๐ อย่าง ด้วยอำนาจแห่ง
(บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ คือ) ทาน ศีล ภาวนา อปจายนะ เวยยาวัจจะ
ปัตติทาน ปัตตานุโมทนา ธัมมัสสวนะ ธัมมเทสนา และทิฏฐชุกรรมฯ
ก็กามาวจรกุศลนี้นั้น แม้มีตั้ง ๒๐ อย่าง ก็ถึงการสงเคราะห์เข้าในคำว่า
"กามาวจรกรรม" นั่นเอง ฯ ส่วนรูปาวจรกุศล เป็นมโนกรรม
อย่างเดียว ฯ และรูปาวจรกุศลนั้นที่เป็นภาวนามัย ซึ่งถึงอัปปนา มี ๕
อย่าง โดยความต่างแห่งองค์ฌาน ฯ อนึ่ง อรูปาวจรกุศล ก็เป็นมโน-