ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 213
เพราะเหตุที่ชั้นปฐมฌานแม้ทั้ง ๓ นั้น จะไม่พินาศแม้ในกัลป์
อันหนึ่งไม่มี ฉะนั้น เหล่าพรหมปาริสัชชาเป็นต้นนั้น จึงไม่เกิด
ในกัลป์ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น จึงเห็นการกำหนดอายุของพรหมปาริสัชชา
เป็นต้นนั้น ด้วยอำนาจแห่งอสงไขยกัลป์ฯ ก็ตั้งแต่ชั้นทุติยฌา
เป็นต้นไป กำหนดด้วยอำนาจมหากัลป์ที่ครบบริบูรณ์ ไม่ใช่ด้วย
อำนาจอสงไขยกัลป์ฯ ก็ที่ชื่อว่าอสงไขยกัลป์ ได้แก่ส่วนที่ ๔ แห่ง
มหากัลป์ ซึ่งมีสภาพไม่มีหมดสิ้นไป แม้ในเมื่อกองเมล็ดพันธุ์ผักกาด
หมดสิ้นไป ด้วยนำพืชพันธุ์ผักกาดออกครั้งละเมล็ด ๆ โดยล่วงไป
ร้อยปี ๆ ต่อครั้ง จากกองเมล็ดพันธุ์ผักกาด ยาวกว้างด้านละ ๑
โยชน์เท่ากันฯ ก็อสงไขยกัลป์ ๑ นั้น มีประมาณ ๖๔ อันตรกัลป์
ด้วยอำนาจอันตรกัลป์ที่ท่านกำหนดไว้อย่างนี้ว่า "ในเมื่อสัตว์เป็น
อันมาก ถึงความพินาศด้วยความเป็นไปแห่งศัสตราหรือโรค หรือ
ทุพภิกขภัยอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ด้วยอานุภาพแห่งกุศลกรรมที่เป็นไป
ในสันดานสัตว์ที่ยังเหลืออยู่ สัตว์มีประมาณอายุเจริญขึ้นโดยลำดับ
ตั้งแต่ ๑๐ ปี จนถึงอสงไขย ๑ แล้วกลับเสื่อมลงโดยลำดับ ด้วย
อำนาจสมาทานอธรรม จนถึงอายุ ๑๐ ปีอีก สัตว์ถึงความพินาศด้วย
ความเป็นแห่งโรคเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ชั่วเวลาเท่านี้ เป็น
อันตรกัลป์ ๑" ฯ อาจารย์ทั้งหลายกล่าวว่า "วิวัฏฏฏฐายีอสงไขย
กัลป์นั้น ประมาณ ๒๐ อันตรกัลป์"
เหล่าเทวดาที่ชื่อว่าอากาสานัญจายตนูปคา เพราะอรรถว่า เข้า
ถึงชั้นอากาสานัญจายตนฌาน ฯ