ข้อความต้นฉบับในหน้า
အ
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 282
แห่งรูป ดุจคนไม่มีโรค ความไม่แข็ง ดุจหนังที่เขาฟอกดีแล้ว ความ
อนุกูลแก่สรีระกิริยา ดุจทองที่เขาหลอมดีแล้ว มีตามลำดับ ฯ บัณฑิต
กล่าวรูปปวัติทั้ง ๓ มีลหุตาเป็นต้น แม้ไม่พรากจากกันและกัน ก็
ต่างกันด้วยรูปอันยิ่งด้วยวิการนั้น ๆ ๆ ก็รูปวิการมีปัจจัยที่เป็นข้าศึก
แก่ความกำเริบแห่งธาตุ อันทำความชักช้าเป็นสมุฏฐาน ชื่อลหุตา ฯ
รูปวิการมีปัจจัยที่เป็นข้าศึกแก่ความกำเริบแห่งธาตุอันกระทำความเป็นของ
กระด้างเป็นสมุฏฐาน ชื่อมุทุตา ฯ รูปวิการมีปัจจัยที่เป็นข้าศึกแก่ความ
กำเริบแห่งธาตุอันกระทำความไม่อนุกูลแก่สรีระกิริยาทั้งหลายเป็นสมุฏฐาน
ชื่อกัมมัญญตา ดังนี้แล ฯ
ન
ความแรกก่อ ชื่ออุปจยะ ฯ อธิบายว่า ความก่อครั้งแรก เพราะ
อุป ศัพท์ ส่องเนื้อความว่า ครั้งแรก ดุจในประโยคว่า อุปญาติ
(แรกรู้) เป็นอาทิฯ ความสืบต่อ ชื่อว่าสันตติ ฯ อธิบายว่า ความ
สืบเนื่องกัน ฯ ในอุปจยะและสันตติเหล่านั้น ตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงทสกะ
มีจักขุทสกะเป็นต้นเกิด ความบังเกิดแห่งรูปในระหว่างนี้ ชื่อว่า
อุปจยะ ฯ หลังจากเกิดจักขุทสกะเป็นต้นนั้นไป ชื่อว่าสันตติฯ
ความแก่แห่งรูปทั้งหลายที่มีปกติตั้งอยู่ชั่วขณะของตน ๆ ด้วยอำนาจความ
บ่ายหน้าไปหาความดับ ชื่อว่าชรา ฯ ชรานั่นแล ชื่อว่าชรตาฯ
รูปที่ชื่อว่าอนิจจัง เพราะอรรถว่า อันบุคคลไม่พึงถึง คือไม่พึงเข้าถึง
โดยสภาพที่เที่ยงและยั่งยืน ฯ ภาวะแห่งรูปที่ไม่เที่ยงนั้น ชื่อว่าอนิจจตา
ન
ได้แก่การแตกทำลายไปแห่งรูป 1 ชื่อว่าลักขณรูป เพราะเป็นเหตุให้
กำหนดธรรมทั้งหลาย ด้วยอำนาจแห่งการกำหนดนั้น
ๆๆ