ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 202
จึงชื่อว่ากามสุคติภูมิ ฯ แม้ในบททั้งหลายที่เหลือ ก็มีนัยดังกล่าวมา
แล้วนั้นฯ
[อธิบายคำว่า นรก เป็นต้น]
แดนที่ชื่อว่านิรยะ (นรก) เพราะอรรถว่า ไปปราศจากความ
เจริญ คือจากความสุขฯ สัตว์ทั้งหลาย ชื่อว่าดิรัจฉาน เพราะความ
ว่า ไปขวาง (คือเดินไปตามส่วนยาว หรือส่วนขวาง)ฯ กำเนิด
ของสัตว์ดิรัจฉานเหล่านั้น ชื่อว่าติรัจฉานโยนิ ฯ ธรรมชาติที่ชื่อว่าโยนิ
(กำเนิด) เพราะอรรถว่า เป็นเหตุเจือปน (ผสม) กันของพวก
สัตว์ คือแม้จะไม่เจือปนกัน ก็เป็นเหมือนเจือปน โดยความมีชาติ
เสมอกัน ฯ ก็กำเนิดนั้น ว่าโดยใจความ ได้แก่ความเป็นไปที่วิเศษ
แห่งขันธ์ทั้งหลาย ฯ สัตว์ทั้งหลาย ชื่อว่าเปรต เพราะอรรถว่า
ไป คือล่วงเลยไปจากความสุข โดยยิ่งๆ วิสัย (แดน) แห่งเปรต
ทั้งหลาย ต่างโดยประเภทแห่งเปรต มีนิชฌานตัณหักเปรตเป็นต้น
ชื่อว่าเปรตวิสัย ฯ ก็ในดิรัจฉานกำเนิดและเปรตวิสัยนี้ ด้วยศัพท์ว่า
ดิรัจฉานกำเนิดและเปรตวิสัยหมายเอาเฉพาะขันธ์เท่านั้น เพราะโอกาสที่
กำหนดเช่นนั้น ไม่มีแก่ดิรัจฉานกำเนิดและเปรตวิสัยเหล่านั้น ๆ ก็อีก
อย่างหนึ่ง สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมอยู่ประจำเป็นนิตย์ในสถานที่ใด
ๆ
มีราวป่าและเชิงเขาเป็นต้น แม้โอกาส บัณฑิตก็ควรถือเอาด้วยสามารถ
แห่งสถานที่เช่นนั้น ๆ สัตว์ทั้งหลายพวกที่ชื่อว่าอสูร เพราะอรรถว่า
ไม่เล่น (อย่างเทวดา) คือเล่นโดยความเป็นใหญ่และเป็นกีฬาเป็นต้น
ด.
เปรตผู้มีความหิวจัดดุจถูกไฟไหม้.