ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 120
เพราะเหตุนั้น เพื่อจะแสดงวิภาคแม้ด้วยอำนาจแห่งอินทรีย์นั้น ใน
เวทนาสังคหะนี้ท่านอาจารย์จึงกล่าวคำว่า สุข ทุกข์ เป็นต้น ๆ จริงอยู่
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจำแนกสุขและทุกข์ เฉพาะอย่างหนึ่ง ๆ เป็น ๒
อย่าง เพราะความต่างแห่งความสำราญและความไม่สำราญที่เป็นไปทาง
กาย และเป็นไปทางจิต จึงทรงแสดงเวทนาว่า สุขินทรีย์ โสมนัสสิน
ทรีย์ ทุกขินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์ ฯ แต่อุเบกขาทรงแสดงไว้อย่างเดียว
เท่านั้นว่า อุเบกขินทรีย์ เพราะไม่มีความต่าง ๆ เหมือนอย่างว่า สุข
และทุกข์ ย่อมทำการอนุเคราะห์และการเบียดเบียนแก่กายโดยอาการ
อย่างอื่น แก่ใจโดยอาการอย่างอื่นฉันใด อุเบกขาย่อมกระทำฉันนั้น
หามิได้ เพราะเหตุนั้น อุเบกขานั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงแสดงไว้
โดยอย่างเดียวเท่านั้น ๆ เพรา
ราะเหตุนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลายจึงได้
กล่าวได้ว่า
เวทนาโดยความต่างแห่งอินทรีย์มี ๕ คือ ทุกข์
ทางกาย ๑
ทุกข์ทางใจ
๑ สุขทางกาย ๑ สุข
ทางใจ ๑ อุเบกขาเวทนา เป็นไปทางใจอย่าง
เดียวเท่านั้น ๑ ฯ
บรรดาเวทนาทั้ง ๕ นั้น สุขมีการเสวนโผฏฐัพพารมณ์ที่น่า
ปรารถนาเป็นลักษณะ ฯ ทุกข์มีการเสวยโผฏฐัพพารมณ์ที่ไม่น่า
ปรารถนาเป็นลักษณะ ฯ โสมนัสมีการเสวยอารมณ์ที่น่าปรารถนา โดย
สภาพบ้าง โดยปริกัปบ้าง เป็นลักษณะ ฯ โทมนัสมีการเสวยอารมณ์
ที่ไม่น่าปรารถนา โดยสภาพบ้าง โดยปริกัปบ้าง เช่นนั้นเป็นลักษณะ ฯ