อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 384
หน้าที่ 384 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับอภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา พูดถึงอารมณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์สหชาตาธิบดี ซึ่งประกอบด้วยฉันทาธิบดี วิริยาธิบดี จิตตาธิบดี และวีมังสาธิบดี ที่มีอำนาจร่วมกันในการเกิดนามรูป อธิบายว่าในปวัติกาล จิตและเจตสิกเป็นปัจจัยสำคัญในการค้ำจุนซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและการเกิดของสัตว์ด้วยการตั้งอยู่ในอำนาจแห่งกรรมและมโนสัญเจตนาอาหาร

หัวข้อประเด็น

-อภิธัมมัตถสังคหบาลี
-อภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา
-สหชาตาธิบดี
-จิตและเจตสิก
-อาหารปัจจัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 384 อารมณ์ที่ทำให้หนักฯ คำว่า สหชาตา ฯเปฯ นามรูปานํ ความว่า สหชาตาธิบดี มีถึง ๔ อย่าง (คือ ฉันทาธิบดี วิริยาธิบดี จิตตาธิบดี และวีมังสาธิบดี) ด้วยอำนาจแห่งฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวีมังสา เป็นปัจจัยแก่นามรูปที่เกิดร่วมกันตามสมควร ในปวัติกาลเท่านั้น ด้วย อำนาจแห่งสหชาตาธิบดี ๆ ท่านอาจารย์ทำในใจว่า ความที่รูปธรรม อาศัยอรูปธรรมเป็นสหชาตปัจจัย พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ด้วยอำนาจ แห่งวัตถุในปฏิสนธิกาลเท่านั้น จึงกล่าวคำว่า วัตถุวิปากา อญฺญมญญ์ ดังนี้ ฯ [อธิบายจิตและเจตสิกเป็นอัญญมัญญปัจจัยแก่กันและกัน] ก็เพราะภาวะแห่งจิตและเจตสิกเป็นอัญญมัญญปัจจัย ด้วยอำนาจ แห่งการค้ำจุนแก่กันและกันนั่นเอง ไม่ใช่โดยสักว่าเกิดร่วมกัน ฉะนั้น รูปจึงไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัยแก่นาม ในปวัติกาล เพราะฉะนั้น ท่าน อาจารย์จึงได้กล่าวไว้ว่า จิตตเจตสิกา อญฺญมญญ์ ดังนี้ ฯ อนึ่ง อุปาทายรูป ก็ไม่เป็นอัญญมัญญปัจจัยแก่นาม ในปวัติกาล เพราะฉะนั้น ท่านจึงกล่าวว่า มหาภูตา อญฺญมญฺญ์ ดังนี้ ฯ มีคำถามสอดเข้ามาว่า ก็ท่านอาจารย์ได้กล่าวไว้ว่า อาหารที่ไม่มีรูป เป็นอาหารปัจจัยแก่นามรูปที่ เกิดร่วมกันมิใช่หรือ ? ก็เมื่อเป็นเช่นนั้น คำว่า สัตว์ทั้งปวงมีความ ตั้งอยู่ได้ด้วยอาหารนี้ ด้วยอาหารนี้ พวกเราจะรู้ได้อย่างไร ? เพราะสหชาตาหาร ไม่มีแก่พวกอสัญญีสัตว์ฯ เฉลยว่า ภาวะแห่งสรรพสัตว์มีความตั้งอยู่ ได้ด้วยอาหาร พระผู้มีพระภาคตรัสหมายเอาปริยาย คือความที่กรรม อันเป็นไปด้วยอำนาจแห่งมโนสัญเจตนาหาร หรืออาหารนอกนั่น แม้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More