อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 331 อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 331
หน้าที่ 331 / 442

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้มีการอธิบายถึงอธิบดีและความสัมพันธ์ของธรรมทั้งหลาย การยกอธิปติปัจจัยและความสำคัญของเหตุปัจจัยต่างๆที่สัมพันธ์ในพระพุทธศาสนา มีการจัดแบ่งประเภทขององค์ฌาน, องค์มรรค, และอินทรียธรรม พร้อมทั้งกล่าวถึงพลธรรมหลายอย่าง รวมถึงกุศลและมิสสกสังคหะ เป็นต้น เนื้อหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความลึกซึ้งในอภิธรรมที่มีบทบาทสำคัญในการศึกษาธรรมะของพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-อภิธัมมัตถ
-อธิบดี
-เหตุปัจจัย
-ธรรมะ
-พระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 331 ควรประกอบเป็นอธิบดี ฯ แท้จริง เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค จึงไม่ตรัสโดยนัยเป็นต้นว่า อธิบดีเป็นปัจจัยโดยอธิปติปัจจัยแก่ธรรมที่ สัมปยุตด้วยอธิบดี ดุจในนิเทศแห่งเหตุปัจจัยโดยนัยเป็นต้นว่า เหตุเป็น ปัจจัยโดยเหตุปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุ ทรงยกอธิปติปัจจัยขึ้น ด้วยอำนาจแห่งอธิบดีอย่างหนึ่ง ๆ เท่านั้น โดยนัยเป็นต้นว่า ฉันทา ธิบดีเป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยฉันทะ ฯ ธรรมที่เป็นเหตุโดยวัตถุ คือโดยอำนาจธรรมมี ๖, องค์ฌาน มี ๕ เพราะโสมนัสโทมนัสและอุเบกขา รวมเข้าไว้ในฐานเดียวกัน ด้วยอำนาจแห่งเวทนา ฯ องค์มรรคมี ๕ เพราะรวมมิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวายามะ และมิจฉาสมาธิ เข้าไว้ในฐานเดียวกันกับสัมมาสังกัปปะ เป็นต้น โดยเป็นสภาคของวิตก วิริยะ และจิตเตกัคคตา ฯ อินทรีย ธรรมมี ๑๖ เพราะรวมอินทรีย์คือเวทนา ๕ เข้าในฐานเดียวกัน โดย เป็นเวทนาเหมือนกัน, และเพราะรวมอินทรีย์ที่เป็นโลกุตระ ๓ กับ ปัญญินทรีย์เข้าในฐานเดียวกัน โดยเป็นญาณเหมือนกัน, และเพราะ แยกรูปชีวิตนทรีย์ และอรูปชีวิตนทรีย์ไว้เป็นอย่าง ๆ ๆ ส่วนพลธรรม พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ ๕ อย่าง โดยนัยตามที่กล่าวแล้วนั่นแลฯ ๓ อธิบดีธรรมตรัสไว้ ๔ อย่าง ๆ อาหารก็ตรัสไว้ ๔ อย่างเหมือนกัน ฯ สังคหะที่ปะปนไปด้วยกุศลเป็นต้นทั้ง ๓ อย่าง ชื่อว่ามิสสกสังคหะ เพราะระคนไปด้วยกุศลธรรมเป็นต้นนั้นนั่นแล คือมีชื่ออย่างนั้น ท่าน อาจารย์กล่าวไว้ ๒ อย่าง ด้วยประการฉะนี้ ฯ ก็บรรดาธรรมมีเหตุ เป็นต้นเหล่านี้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น