ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 331
ควรประกอบเป็นอธิบดี ฯ แท้จริง เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาค
จึงไม่ตรัสโดยนัยเป็นต้นว่า อธิบดีเป็นปัจจัยโดยอธิปติปัจจัยแก่ธรรมที่
สัมปยุตด้วยอธิบดี ดุจในนิเทศแห่งเหตุปัจจัยโดยนัยเป็นต้นว่า เหตุเป็น
ปัจจัยโดยเหตุปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุ ทรงยกอธิปติปัจจัยขึ้น
ด้วยอำนาจแห่งอธิบดีอย่างหนึ่ง ๆ เท่านั้น โดยนัยเป็นต้นว่า ฉันทา
ธิบดีเป็นปัจจัยแก่ธรรมที่สัมปยุตด้วยฉันทะ ฯ
ธรรมที่เป็นเหตุโดยวัตถุ คือโดยอำนาจธรรมมี ๖, องค์ฌาน
มี ๕ เพราะโสมนัสโทมนัสและอุเบกขา รวมเข้าไว้ในฐานเดียวกัน
ด้วยอำนาจแห่งเวทนา ฯ องค์มรรคมี ๕ เพราะรวมมิจฉาสังกัปปะ
มิจฉาวายามะ และมิจฉาสมาธิ เข้าไว้ในฐานเดียวกันกับสัมมาสังกัปปะ
เป็นต้น โดยเป็นสภาคของวิตก วิริยะ และจิตเตกัคคตา ฯ อินทรีย
ธรรมมี ๑๖ เพราะรวมอินทรีย์คือเวทนา ๕ เข้าในฐานเดียวกัน โดย
เป็นเวทนาเหมือนกัน, และเพราะรวมอินทรีย์ที่เป็นโลกุตระ ๓ กับ
ปัญญินทรีย์เข้าในฐานเดียวกัน โดยเป็นญาณเหมือนกัน, และเพราะ
แยกรูปชีวิตนทรีย์ และอรูปชีวิตนทรีย์ไว้เป็นอย่าง ๆ ๆ ส่วนพลธรรม
พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ ๕ อย่าง โดยนัยตามที่กล่าวแล้วนั่นแลฯ
๓
อธิบดีธรรมตรัสไว้ ๔ อย่าง ๆ อาหารก็ตรัสไว้ ๔ อย่างเหมือนกัน ฯ
สังคหะที่ปะปนไปด้วยกุศลเป็นต้นทั้ง ๓ อย่าง ชื่อว่ามิสสกสังคหะ
เพราะระคนไปด้วยกุศลธรรมเป็นต้นนั้นนั่นแล คือมีชื่ออย่างนั้น ท่าน
อาจารย์กล่าวไว้ ๒ อย่าง ด้วยประการฉะนี้ ฯ ก็บรรดาธรรมมีเหตุ
เป็นต้นเหล่านี้