ข้อความต้นฉบับในหน้า
ભૈ
ประโยคส - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 249
เป็นนิมิตแห่งทุคติ ฯ นิมิตแห่งคติ ชื่อว่าคตินิมิตฯ บทว่า กมุมพเลน
ความว่า ด้วยอกนุภาพแห่งกรรมที่เป็นกุศลและอกุศล ที่ให้เกิดปฏิสนธิ
สองบทว่า ฉนฺนํ ทุวารานํ ความว่า บรรดาทวารที่เกิดขึ้นทั้ง 5 ตาม
สมควรแก่ความเกิด โดยนัยที่กำลังจะกล่าวฯ ท่านอาจารย์กระทำไว้
ในใจว่า "ถ้ากุศลกรรมเผล็ดผล กุศลจิตซึ่งบริสุทธิ์ ย่อมเป็นไปใน
เวลานั้น ถ้าอกุศลกรรมเผล็ดผล อกุศลจิตซึ่งเศร้าหมอง ย่อมเป็นไป
ในเวลานั้น " จึงกล่าวว่า "วิปจฺจมานก ฯเปฯ กิลิฏฐิ วา" ฯ เพราะ
เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงได้ตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย วิญญาณ
กำหนัดด้วยความยินดีในนิมิตก็ดี กำหนัดด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ
ก็ดี เมื่อตั้งอยู่ ย่อมตั้งอยู่ได้ ถ้าว่า บุคคลย่อมทำกาละในสมัยนั้นไซร้
ข้อที่เขาจะพึงเข้าถึงคติ ๒ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง คือนรกหรือกำเนิด
แห่งสัตว์เดียรัจฉาน เป็นฐานะที่มีอยู่ "
ๆ
พึงเห็นอบายในบทว่า พาหุลเลน
บทว่า ตตฺโถนตัว ความว่า จิตสันดานเป็นเหมือนโน้มไป
ในภพที่จะพึงเกิดนั้น ๆ อีกนัยหนึ่ง ตัดบทว่า ตตฺโถนต์ อิว ฯ บัณฑิต
นี้ โดยนัยที่กล่าวไว้แล้วในบทว่า
"เยฮุยฺเยน ภวนฺตเร " นี้ ๆ อีกอย่างหนึ่ง ความอธิบายนั้น อาจ
เพื่อจะสงเคราะห์เข้าด้วยบทว่า "ยการห์" นี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น
บัณฑิตจึงทราบได้ว่า ด้วยบทว่า "พาหุลุเลน" นี้ ท่านอาจารย์แสดง
ว่า "จิตสันดานของเหล่าสัตว์ผู้มีชีวิตขาดลงโดยทันทีทันใด ไม่เป็น
ไปเนือง ๆ เหมือนจิตสันดานของสัตว์ผู้ค่อย ๆ ตายไปเลย" ฯ บทว่า
อภินวกรณวเสน ความว่า ด้วยอำนาจทำตนให้ใหม่เสมอ เหมือนกรรม
๑. สํ. ส. ๒๕/๒๑๐