อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 166
หน้าที่ 166 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้เกี่ยวกับการวิเคราะห์จิตในมโนทวาร โดยเฉพาะการแยกประเภทจิตที่เกี่ยวข้องกับชวนะในสภาวะอัปปนา อธิบายถึงจิตทั้ง 4 ดวงในกระบวนการอัปปนา รวมถึงบริกรรมและความสัมพันธ์ของชวนะในบรรดาจิตต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการอธิบายถึง characterization ของดวงจิตภายใต้การเกิดขึ้นและดับไปของชวนะโดยมีความสัมพันธ์อื่นๆ ที่สำคัญต่างๆ ด้านวิธีการปฏิบัติในเชิงลึกในพระพุทธศาสนา

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์จิต
-ความสัมพันธ์ของชวนะ
-ประเภทของจิตในอัปปนา
-การบริกรรมและความใกล้ชิดของอัปปนา
-อรรถกถาและความหมายในอภิธัมม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 166 เอตฺถ คือ ในมโนทวาร ฯ จิต ๔๑ ดวง ย่อมเป็นไปในมโนทวาร เพราะจิต ๑๓ ดวง ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งต่างหากในปัญจทวาร ด้วยอำนาจ ทวิปัญจวิญญาณและมโนธาตุทั้ง ๓ ไม่เป็นไปในมโนทวารนั้น ๆ ปริตตชวนนัย (นัยที่ท่านกล่าวไว้ในปริตตชวนะ) จบ 1 9 [อธิบายอัปปนาชวนะ] ความต่างแห่งวิภูตารมณ์ไม่มี เพราะอัปปนาเกิดในเวลาอารมณ์ แจ่มแจ้ง (ปรากฏชัด) เท่านั้น ฯ สัมพันธ์ความว่า แท้จริง บรรดา ชวนะที่เป็นมหัคคตะแล้วโลกุตตระ ๒๖ นั้น ชวนะใดชวนะหนึ่งลงสู่ อัปปนาวิถีฯ ประกอบความว่า เมื่อชวนะในชวนะหนึ่งเกิดขึ้นตาม ลำดับ โดยชื่อว่า บริกรรม อุปจาร อนุโลม และโคตรภูแล้วดับไป ฯ จริงอยู่ จิตดวงที่ ๑ ชื่อว่าบริกรรม เพราะเป็นบริกรรมของอัปปนา คือเพราะปรุงแต่งอัปปนาฯ ดวงที่ ๒ ชื่อว่าอุปจาร เพราะเที่ยวไปใกล้ อัปปนาฯ แท้จริง แม้ธรรมที่ไม่ใกล้เกินไป มีความเป็นไปไม่ไกล เกินไป ก็ชื่อว่าสมีปจารี (มีปรกติเที่ยวไปในที่ใกล้)ฯ อีกนัยหนึ่ง ชื่อว่าอุปจาร เพราะอรรถว่า เที่ยวไปใกล้ชิดอัปปนาฯ ดวงที่ ๓ ชื่อ ว่าอนุโลม เพราะอนุกูลแก่บริกรรมแม้ในบุรพภาค และแก่อัปปนาใน เบื้องบนฯ ดวงที่ 4 ชื่อว่าโคตรภู เพราะครอบโคตรกามาวจรและ โคตรปุถุชน เพราะอบรมคือพอกพูนมหัคคตโคตรและโลกุตตร โคตร ฯ ชื่อทั้ง ๔ นี้ย่อมได้ในเวลาเป็นไป 4 ครั้งโดยไม่เหลือๆ แต่ในเวลา เป็นไป ๓ ๓ ครั้งได้ตามชื่อว่าอุปจาร อนุโลมและโคตรภูเท่านั้น ณ แต่ว่า ในอรรถกถาท่านกล่าวชื่อมีบริกรรมเป็นต้น แห่งบริกรรมอุปจาร และ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More