ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 26
คือไม่มีสภาพอะไรมีอัตตาเป็นต้น ที่จะพึงในทิฏฐินี้ เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่าทิฏฐิคตะ คือความถือมั่นซึ่งสังขารว่าตน และเป็นของแห่งตน
เป็นต้น ที่เป็นไปว่า คำนี้แลจริง คำอื่นเปล่า ดังนี้ ฯ จิตที่ประกอบ
แล้วโดยประการทั้งหลาย มีอันบังเกิดขึ้นร่วมกันเป็นต้นพร้อมกับทิฏฐินั้น
ราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าทิฏฐิคตสัมปยุตจิต ฯ
เพร
บุรพประโยคใด ย่อมปรุง คือจัด ซึ่งจิต โดยเครื่องตกแต่ง
อันพิเศษ กล่าวคือความแกล้วกล้า หรืออีกนัยหนึ่ง จิตนั้นถูกบุรพ
ประโยคนี้ปรุง คือจัด โดยนัยดังที่กล่าวแล้ว เพราะเหตุนั้น บุรพ
ประโยคนั้น จึงชื่อว่าสังขาร คือบุรพประโยคของตนหรือของคนเหล่า
อื่นอันเป็นไปแล้ว โดยอำนาจแห่งอันเพิ่มให้ซึ่งกำลังอันสมควรแก่บุคคล
หรือจิตที่ท้อแท้ในกิจนั้น ๆๆ แต่บุรพประโยคนั้น ย่อมเป็นไปใน
จิตสันดานของตนที่เป็นไปแล้วโดยส่วนเบื้องต้น และในสันดาษของ
คนอื่น เพราะฉะนั้น อาการพิเศษ กล่าวคือความแกล้วกล้าของจิต
ที่บุรพประโยคนั้นให้เกิดแล้วนั่นแหละ จึงชื่อว่าสังขาร ในอธิการเรื่อง
จิตนี้ ฯ สังขารนั้นไม่มีแก่จิตใด จิตนั้น ชื่อว่าอสังขาร ฯ อสังขาร
ๆ
นั่นแล ชื่ออสังขาริกฯ จิตที่ประกอบด้วยสังขาร ชื่อสสังขาริกฯ จริง
อย่างนั้น ท่านอาจารย์ทั้งหลาย กล่าวซ้ำความว่า
อาการพิเศษที่เกิดแต่บุรพประโยค มีขึ้น
ในจิต ชื่อว่าสังขาร ความเป็นจิตมีอสังขาริก-
จิตเป็นต้น ย่อมมีในจิตตวิสัยนี้ ด้วยอำนาจ
แก่งสังขารนั้น ฯ