ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 215
แต่งให้เกิดผลเสียเอง ชื่อว่าอุปฆาตกรรมฯ จริงอยู่ ชนกกรรม
และอุปฆาตกกรรม (ทั้ง ๒ นี้ ) มีความแปลกกันดังนี้ คือ ชนกกรรม
ไม่เข้าไปตัดรอนวิบากแห่งกรรมอื่นเลย (แต่) ให้วิบาก (ผล) เกิดได้
อุปฆาตกรรม มีการเข้าไปตัดรอนเสียก่อน ๆ นี้เป็นข้อสันนิษฐาน
ในอรรถกถาทั้งหลายก่อน ฯ ส่วนอาจารย์พวกอื่นกล่าวไว้ว่า "อุปปีฬก
กรรม ย่อมขัดขวางวิบากแห่งกรรมอื่นในระหว่าง ๆ โดยนำปัจจัยมี
ความเป็นผู้อาพาธมากเป็นต้นเข้าไปให้, ส่วนอุปฆาตกกรรมเข้าไป
ตัดรอนวิบากแห่งกรรมอื่นนั้น โดยประการทุกอย่าง ให้โอกาสแก่กรรม
อื่น แต่ไม่ให้วิบากเกิดด้วยตนเอง, แท้จริง ความแปลกกันแห่ง
อุปฆาตกกรรมนี้จากชนกกรรม ปรากฏชัดดีอย่างนี้แล " ฯ
[อธิบายกรรม ๔ อย่าง ให้ผลตามลำดับ]
บทว่า กิจฺจวเสน ได้แก่ด้วยอำนาจแห่งกิจ คือการทำให้
เกิด, การสนับสนุน, การเบียดเบียน และการตัดรอน ๆ
บทว่า ครุก ได้แก่กรรมกรรมที่อย่างอื่นไม่สามารถขัดขวางได้
ซึ่งมีโทษมาก และมีอานุภาพมาก ๆ
บทว่า อาสนุนํ ได้แก่กรรมที่ตามระลึกได้ในเวลาใกล้จะตาย
และกรรมที่ทำในเวลานั้น (คือเวลาใกล้จะตายนั้น) ฯ
บทว่า อาจิณฺณ์ ได้แก่กรรมที่ทำเนือง ๆ หรือแม้ทำคราวเดียว
แต่ส้องเสพเสมอเนืองนิตย์ ฯ
บทว่า กตฺตุตากมุม ได้แก่กรรมที่ยังไม่ถึงความเป็นครุกรรม
เป็นต้น แต่ควรกล่าวว่า "กรรม" โดยเพียงแต่สักว่าทำเท่านั้น ฯ