อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 271
หน้าที่ 271 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาพูดถึงธาตุสี่ที่ประกอบสร้างสรีระมนุษย์ ได้แก่ ปฐวี, อาโป, เตโช, และวาโย ซึ่งแต่ละธาตุนั้นมีลักษณะของตนเอง ทว่าเมื่อรวมกันจะก่อให้เกิดและเสริมสร้างการดำรงอยู่ของชีวิต พร้อมกับการทำงานของประสาทรูปที่มีหน้าที่สำคัญในการรับรู้และสัมผัสสิ่งต่าง ๆ และนำพาไปสู่การเข้าใจในธรรมชาติของจิตประสาท

หัวข้อประเด็น

-ธาตุสรีระ
-ประสาทรูป
-อำนาจแห่งธาตุ
-การรับรู้ของมนุษย์
-อภิธัมมัตถสังคหบาลี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ๆ ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 271 ธาตุอันเป็นส่วนแห่งสรีระและภูเขา คือ ปฐวีฯ ชื่อว่าอาโป ด้วยอรรถ ว่า เอิบอาบ คือซึมซาบรูปที่เกิดร่วมกัน หรือด้วยอรรถว่า เพิ่มพูน คือพอกพูนให้เจริญฯ ชื่อว่าเตโช ด้วยอรรถว่า ให้ร้อน คือให้อบอุ่น หรือให้เข้มแข็ง คือให้ภูตรูปทั้ง ๓ ที่เหลืออุ่นอยู่ โดยภาวะเป็นสภาพ แรงกล้า ฯ ชื่อว่าวาโย ด้วยอรรถว่า เคลื่อนไหว คือให้ประชุมแห่ง ภูตรูปเคลื่อนที่โดยเป็นเหตุเกิดปรากฏ (แห่งรูป) ในที่อื่น ๆ จึงเข้า ใจว่า ก็ธาตุทั้ง ๔ นี้ มีลักษณะเป็นของเข้มแข็งเป็นเหลว เป็น ความอบอุ่น และเป็นอาการเคลื่อนไหวตามลำดับฯ อรรถวิเคราะห์ แห่งคำว่า จักขุเป็นต้น ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วในหนหลังนั่นแลฯ ชื่อว่า ประสาทรูป เพราะมีลักษณะเป็นเหตุแห่งความผ่องใสของมหาภูตทั้ง ๔ ฯ ก็ประสาทรูปนั้น มีลักษณะทำภูตรูปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน อันมีความ ประสงค์จะดู จะฟัง จะดม จะลิ้ม และจะสัมผัส เป็นเหตุให้ผ่องใสตาม ลำดับ ฯ [อธิบายประสาทรูป] ය บรรดาประสาททั้ง ๕ เหล่านั้น จะกล่าวจักษุประสาทก่อน ๆ จักษุประสาทนั้น ซึมซาบเยื่อตา ๓ ชั้น ประดุจน้ำมันซึมซาบปุยนุ่นใน ประเทศที่เกิดสรีรสัณฐานแห่งผู้อยู่ตรงหน้า มีประมาณเท่าศีรษะเล็น ในท่ามกลางแห่งแววตาดำ อันธาตุทั้ง ๔ มีหน้าที่ทรงสมานให้อบอุ่น และให้เคลื่อนไหว กระทำอุปการะแล้ว ประดุจขัตติยกุมารอันพระ พี่เลี้ยงทั้ง ๔ มีหน้าที่อุ้มให้สรงสนาน แต่งพระองค์และถวายอยู่งานพัด เฝ้าประจำแล้ว อันฤดู จิต และอาหารคอยอุปถัมภ์ อันอายุเฝ้าบริบาล
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More