ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 89
[ถนะและมิทธะ
ความท้อแท้ ชื่อว่าถีนะ ฯ ภาวะแห่งจิตที่ดิ่งลงด้วยอำนาจความ
ไม่ขะมักเขม้นและความจมลง ชื่อว่านะ ฯ ความเซาซึม ชื่อว่ามิทธะ
ได้แก่ความที่จิตปราศความสามารถ ฯ
အာ
ในถนะและมิทธะนั้น ถีนะ มีความที่จิตไม่ควรแก่การงานเป็น
ลักษณะ มิทธะ มีความที่ขันธ์ทั้ง ๓ มีเวทนาขันธ์เป็นต้น ไม่ควรแก่
การงานเป็นลักษณะ ความต่างแห่งถิ่นะและมิทธะนั้น ดังนี้ ๆ จริง
อย่างนั้น นิเทศแห่งถิ่นะและมิทธะเหล่านี้ เป็นไปในพระบาลีโดยนัย
มีอาทิว่า ในถนะและมิทธะเหล่านั้น ถีนะเป็นไฉน ความที่จิตไม่คล่อง
ไม่ควรแก่การงาน ชื่อว่าดีนะ ในถนะและมิทธะเหล่านั้น มิทธะเป็นไฉน
ความที่กายไม่คล่อง ไม่ควรแก่การงาน ชื่อว่ามิทธะ ฯ มีคำท้วงสอดเข้า
มาว่า ก็เพราะบาลีว่า กายสฺส (แห่งกาย) แม้รูปกายไม่ควรแก่การงาน
ก็ชื่อว่ามิทธะมิใช่หรือ เพราะฉะนั้น แม้ความที่มิทธะนั้นเป็นรูปจึงถูกๆ
เฉลยว่า ไม่ถูก เพราะความที่มิทธะเป็นรูปนั้น ถูกอาจารย์ทั้งหล
คัดค้านแล้วในปกรณ์นั้น ๆ ด้วยอำนาจแห่งเหตุที่ท่านนำมาอ้างแล้ว
นั่นเทียวฯ
วฯ ความจริง พระอาจารย์ทั้งหลายบรรยายคำที่ยกวาทะของ
ท่านที่กล่าวว่า มิทธะเป็นรูป ขึ้นตั้งเป็นประธานไว้ในคัมภีร์อรรถกถา
เป็นต้นมากมาย เพื่อจะค้านมติของท่านที่ว่ามิทธะเป็นรูปฯ ก็ในอธิการ
ว่าด้วยมิทธะนี้ ท่านรวบรวมความไว้ ดังต่อไปนี้ ฯ
งหลาย