ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 153
กล่าวถึงความปรากฏ มิได้ทรงหมายเอาตั้งอยู่ชั่วขณะเลย ฯ เหตุ
ในการที่จะไม่ตรัสถึงธรรมที่ได้อยู่ในพระอภิธรรมไม่มีเลย ฯ เพราะ
ฉะนั้น แม้การไม่ตรัสถึงในยถาธรรมศาสน์ ก็แสดงถึงความไม่มีอยู่
ฯ ข้าพเจ้าจะขอเฉลยในวาทะของอาจารย์บางพวกนั้น ๆ แท้จริง
นั่นเอง
แม้เนื่องมีธรรมอย่างหนึ่งเป็นที่ตั้งอยู่แห่งความเก๋ขึ้นและความดับไป
อุปปบาทขณะเป็นอย่างอื่น ภังคขณะก็เป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้น ท่าน
จึงต้องการกำหนด คือดับไป ซึ่งต่างจากการกำหนดคือเกิดขึ้น
ก็เมื่อจะถือเอาความอย่างอื่น ต้องพูดได้ว่า ธรรมอย่างอื่นต่างหาก
เกิดขึ้น ธรรมอย่างอื่น ฉันใด แม้การกำหนดที่บ่ายหน้าไป
หาความดับ ซึ่งต่างจากการกำหนดคือเกิดดับจำต้องปรารถนา ฉันนั้น
นั่นแลฯ การกำหนดที่บ่ายหน้าไปหาความดับนั้น ชื่อว่าฐิติ ฯ แต่ใน
พระบาลีไม่ได้ตรัสฐิตินั้นไว้ด้วยอำนาจทรงแสดงนัยโดยไม่ผิดอัธยาศัยของ
เวไนยสัตว์ฯ
จริงอยู่ แม้เทศนาในพระอภิธรรม บางครั้งก็เป็นไปโดยไม่ผิด
อัธยาศัยของเวไนยสัตว์ ดุจความเกิดแห่งรูปที่ทรงแยกแสดงเป็น ๒
อย่าง คือ อุปจยะ ๑ สันตติ ๑ ฉะนั้น ๆ แต่เพราะในพระสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสเกิดขึ้นเป็นต้นไว้ ก็เพื่อแสดงลักษณะแห่ง
สังขตธรรมเท่านั้น อย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขตลักษณะของ
สังขตธรรมมี ๓ ประการนี้ ๓ ประการอะไรบ้าง คือ ความเกิด
က
ปรากฏ ๑ ความเสื่อมปรากฏ ๑ ความเป็นอย่างอื่นแห่งธรรมที่ตั้งอยู่
๑. อวตวา แปลว่า กำหนด แต่หมายเอาสภาพก็ได้ อาการก็ได้ ฐานะก็ได้