ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 183
ด้วยปฏิสนธิวิญญาณ ฯ คำว่า ทิฏฐิ ฯเปฯ เสกขาน ความว่า ชวนะ
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉานั้น และกิริยาชวนะเฉพาะของพระขีณาสพต่างหาก
ที่ จ ศัพท์ชักมา ย่อมไม่ได้แก่โสดาบัน และพระสกทาคา
าคามีผู้ได้
ชื่อว่าเสขะ เพราะมีปกติศึกษา โดยความเป็นผู้ทำไม่บริบูรณ์เต็มที่
ในสิกขา เพราะสักกายทิฏฐิ และวิจิกิจฉา ท่านละได้แล้วด้วย
ปฐมมรรคนั้นแล ฯ บทว่า ปฏิฆชวนาน จ ได้แก่ ชวนะที่ประกอบด้วย
โทมนัสและกิริยาชวนะสหรคตด้วยวิจิกิจฉาประกอบด้วยทิฏฐิ ฯ คำว่า
โลกุตตร ฯลฯ สมุปฺปชฺชติ ความว่า โลกุตตรชวนจิตทั้ง ๘ ดวง
ย่อมเกิดขึ้นแก่พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในมรรคและผลเท่านั้น ตามสมควร
แก่ตน เพราะมรรคทั้ง ๔ ไม่เกิดในบุคคลอื่น (จากพระผู้ตั้งอยู่ใน
โสดาปัตติมรรคเป็นต้น) เพราะมีอายุชั่วขณะจิตดวงเดียว เพราะพระ
อริยบุคคลเบื้องต่ำยังไม่ได้บรรลุสมาบัติสูงๆ ขึ้นไป และเพราะบุคคล
(พระอริยบุคคล) เบื้องสูง มีกรรมกิเลสสงบระงับแล้ว โดยการเข้า
ถึงความเป็นบุคคลอื่นจากพระโสดาบันเป็นต้น ด้วยความดับสนิทแห่ง
กรรมกิเลสที่ยังถอนขึ้นไม่ได้ ดุจการเข้าถึงความเป็นบุคคลอื่นจากปุถุชน
ของพระโสดาบันเป็นต้นฉะนั้น ๆ
บัดนี้ เพื่อจะเว้นชวนะตามที่ท่านห้ามแก่บุคคลเหล่านั้น แล้ว
ประมวลแสดงชวนะที่ได้ชวนะที่ได้อยู่แก่บุคคลเหล่านั้นโดยครบถ้วน ท่านอาจารย์
จึงกล่าวคำมีอาทิว่า อเสกขาน ดังนี้ ฯ บัณฑิตพึงแสดงวิถีจิต ๔๔ ดวง
ของพระขีณาสพผู้ชื่อว่าอเสขะ เพราะเป็นผู้ทำให้บริบูรณ์เต็มที่ใน
สิกขาทั้ง ๓ ด้วยอำนาจกามาวจรวิบากจิต ๒๓ กิริยาจิต ๒๐ และ