ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 239
[อธิบายตเหตุกทุเหตุกกรรมชักปฏิสนธิมาได้และไม่ได้
ก็เพราะญาณเป็นปฏิปักษ์ต่อโมหะ หรือต่ออกุศลธรรมทั้งปวง
อันเป็นนิมิตแห่งวิบัติของคนบอดแต่กำเนิดเป็นต้น เพราะฉะนั้น กรรม
ที่สัมปยุตด้วยญาณนั้น จึงไม่เป็นปัจจัยแห่งวิบัติของคนบอดแต่กำเนิด
เป็นต้น เพราะเหตุนั้น บรรดาติเหตุกกรรมและทุเหตุกกรรมทั้ง ๒
อย่างนั้น ติเหตุกกรรม แม้จะเป็นกรรมทุรพลที่สุด ก็ยังชักทุเหตุก
ปฏิสนธิมาได้ แต่ไม่ชักอเหตุกปฏิสนธิมา ฯ ส่วนทุเหตุกกรรม
ไม่สามารถในการยังผลอันสัมปยุตด้วยญาณให้เกิด เพราะไม่มีความ
ประกอบด้วยญาณ ดุจอกุศลกรรมไม่สามารถในการยังผลอันสัมปยุต
ด้วยอโลภะให้เกิด เพราะไม่มีความประกอบด้วยอโลภะ เพราะเหตุนั้น
ทุเหตุกกรรมนั้น แม้จะเป็นกรรมที่อุกฤษฎ์ที่สุด ก็ชักมาได้เฉพาะ
ทุเหตุกปฏิสนธิเท่านั้น ชักติเหตุกปฏิสนธิมาไม่ได้ เพราะเหตุนั้น
ท่านอาจารย์จึงกล่าวไว้ว่า "ติเหตุกกุศลกรรมอย่างต่ำทราม และ
ทุเหตุกกุศลกรรมอย่างสูง" เป็นอาทิ ฯ
ในอธิการแห่งติเหตุกกรรมชักทุเหตุกปฏิสนธิมานี้ จึงมีปุจฉาว่า
"เหมือนอย่างในปฏิสัมภิทามรรค ท่านพระสารีบุตรเถระ กล่าวถึง
วิบากญาณสัมปยุตบังเกิด เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๔ ประการ ด้วย
อำนาจแห่งเหตุ ๓ (คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ) ในชวนขณะ
ค
แห่งกุศลกรรม และเหตุ ๒ (คือ อโลภะ อโทสะ) ในนิกันติขณะ
แห่งกุศลกรรม และเหตุ ๓ (คือ อโลภะ อโสะ อโมหะ) ใน