อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 239 อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 239
หน้าที่ 239 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในหน้านี้เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างติเหตุกรรมและทุเหตุกรรม บทบาทของญาณที่เป็นปฏิปักษ์ต่อโมหะ และอิทธิพลของกรรมในชีวิตมนุษย์ โดยพูดถึงการสร้างสรรค์หรือทำลายอันเกิดจากกรรมที่สัมปยุตด้วยญาณ และการอภิปรายประเด็นที่เกิดขึ้นในการศึกษาพระอภิธรรม

หัวข้อประเด็น

- ความสัมพันธ์ระหว่างกรรมและญาณ
- ติเหตุกรรม
- ทุเหตุกรรม
- วิบัติในคนบอดแต่กำเนิด
- อิทธิพลของอโลภะ อโทสะ อโมหะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 239 [อธิบายตเหตุกทุเหตุกกรรมชักปฏิสนธิมาได้และไม่ได้ ก็เพราะญาณเป็นปฏิปักษ์ต่อโมหะ หรือต่ออกุศลธรรมทั้งปวง อันเป็นนิมิตแห่งวิบัติของคนบอดแต่กำเนิดเป็นต้น เพราะฉะนั้น กรรม ที่สัมปยุตด้วยญาณนั้น จึงไม่เป็นปัจจัยแห่งวิบัติของคนบอดแต่กำเนิด เป็นต้น เพราะเหตุนั้น บรรดาติเหตุกกรรมและทุเหตุกกรรมทั้ง ๒ อย่างนั้น ติเหตุกกรรม แม้จะเป็นกรรมทุรพลที่สุด ก็ยังชักทุเหตุก ปฏิสนธิมาได้ แต่ไม่ชักอเหตุกปฏิสนธิมา ฯ ส่วนทุเหตุกกรรม ไม่สามารถในการยังผลอันสัมปยุตด้วยญาณให้เกิด เพราะไม่มีความ ประกอบด้วยญาณ ดุจอกุศลกรรมไม่สามารถในการยังผลอันสัมปยุต ด้วยอโลภะให้เกิด เพราะไม่มีความประกอบด้วยอโลภะ เพราะเหตุนั้น ทุเหตุกกรรมนั้น แม้จะเป็นกรรมที่อุกฤษฎ์ที่สุด ก็ชักมาได้เฉพาะ ทุเหตุกปฏิสนธิเท่านั้น ชักติเหตุกปฏิสนธิมาไม่ได้ เพราะเหตุนั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวไว้ว่า "ติเหตุกกุศลกรรมอย่างต่ำทราม และ ทุเหตุกกุศลกรรมอย่างสูง" เป็นอาทิ ฯ ในอธิการแห่งติเหตุกกรรมชักทุเหตุกปฏิสนธิมานี้ จึงมีปุจฉาว่า "เหมือนอย่างในปฏิสัมภิทามรรค ท่านพระสารีบุตรเถระ กล่าวถึง วิบากญาณสัมปยุตบังเกิด เพราะปัจจัยแห่งเหตุ ๔ ประการ ด้วย อำนาจแห่งเหตุ ๓ (คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ) ในชวนขณะ ค แห่งกุศลกรรม และเหตุ ๒ (คือ อโลภะ อโทสะ) ในนิกันติขณะ แห่งกุศลกรรม และเหตุ ๓ (คือ อโลภะ อโสะ อโมหะ) ใน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More