ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 320
ประกอบเหล่าสัตว์ไว้ในวัฏฏะ หรือในเครื่องยนต์คือภพเนืองนิตย์ กับ
ผลกรรม หรือกับภพอื่นเป็นต้น หรือกับทุกข์ ฯ ชื่อว่ากายคันถะ
เพราะอรรถว่า ร้อยรัดรูปกายกับด้วยนามกาย หรือกายที่ยังไม่มาถึง
กับด้วยกายปัจจุบัน คือเกี่ยวประสานไว้ให้เปลื้องได้โดยมากฯ การยึด
ถือโดยประการอื่น คือโดยไม่เป็นจริง อย่างนี้ว่า ความบริสุทธิ์มีได้
ด้วยศีลและด้วยวัตร มีศีลวัตรอย่างโคเป็นต้น และด้วยทั้ง ๒ อย่าง
ชื่อว่า ปรามาส ฯ ความถือมั่น คือความยึดมั่นว่า นี้เท่านั้นจริง
ન
ન
อย่างอื่นเปล่า ชื่อว่า อิทังสัจจาภินิเวส ฯ ชื่อว่า อุปาทาน เพราะ
อรรถว่า ยึดอารมณ์หนักแน่น คือมั่งคง เหมือนงูรัดกบฉะนั้น ๆ
ความยึดมั่นคือกาม ชื่อว่า กามุปาทาน อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า กาม
ปาทาน ก็เพราะยึดมั่นซึ่งกาม (หรือเพราะเป็นกิริยาที่สัตว์ยึดมั่น
ซึ่งกาม) ฯ การถือศีลวัตรเป็นต้น ด้วยเข้าใจอย่างนี้ว่า ความบริสุทธิ์
จากสงสารของเราจะมีได้ด้วยศีลวัตรเป็นต้นนี้ ชื่อว่า สีลัพพตุปาทาน ฯ
สภาพที่ชื่อว่า วาทะ เพราะอรรถว่า เป็นเหตุกล่าวฯ สภาพที่เป็น
เหตุกล่าวซึ่งอัตตา (ตัวตน) ที่เดียรถีย์กำหนดไว้ ๒๐ อย่าง โดย
อำนาจอัตตาที่แยกจากขันธ์และไม่ยากจากขันธ์ ชื่อว่า อัตตวาทะ ฯ
อัตตวาทะนั่นแล เป็นอุปาทาน เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า อัตต
วาทุปาทาน ฯ
[อธิบายนีวรณ์]
ธรรมที่ชื่อว่านีวรณ์ เพราะอรรถว่า กางกั้นกุศลจิตที่จะเกิดขึ้น
ด้วยอำนาจแห่งฌานเป็นต้น คือไม่ให้กุศลจิตนั้นเกิดขึ้นด้วยอาการ