ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 300
ปฐมกัลป์ ฯ แต่การไม่ได้จักขุ โสตะ และภาวรูปในทุคติ ด้วยสามารถ
แห่งสัตว์ผู้เป็นสังเสทชะและอุปปาติกะ แม้ทั้ง ๒ พวก การไม่ได้ฆานะ
ด้วยสามารถแห่งสังเสทชะพวกเดียว
มิใช่ด้วยสามารถแห่งอุปปาติกะ ฯ
จริงตามนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสอายตนะของอุปปาติกสัตว์ผู้มี
อินทรีย์บริบูรณ์ว่ามี ๑๑ เว้นสัททายตนะ ของอุปปาติกะผู้บอกว่ามี
๑๐ เว้นจักขวายตนะ ของอุปปาติกะผู้หนวกว่ามี ๑๐ เหมือนกัน เว้น
โสตายตนะ ของอุปปาติกะผู้ทั้งบอดทั้งหนวกว่ามี 8 เว้นจักขวายตนะ
และโสตายนะทั้ง ๒ นั้น ของคัพภเสยยกสัตว์ว่ามี ๓ เว้นอายตนะคือ
จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา และสัททายตนะ โดยบาลีในธรรมหทยวิภังค์
ว่า (ขันธ์ ๕ ย่อมปรากฏแก่สัตว์ทุกจำพวก) ในขณะที่อุบัติในกาม
ธาตุ อายตนะของสัตว์บางชนิดปรากฏมี ๑ ๑๑ บางชนิดมี ๑๐ บางชนิด
อื่นอีกมี ๑๐ บางชนิดมี 8 บางชนิดมี ๒ ดังนี้
ดังนี้ ฯ ก็ถ้าอุปปาติกสัตว์
ที่ไม่มีฆานะ พึงมีไซร้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสอายตนะ ๑๐ ไว้
๓ หน ด้วยสามารถแห่งอุปาติกสัตว์ผู้บอด อุปปาติกสัตว์ผู้หนวก
และอุปปาติกสัตว์ผู้ไม่มีฆานะ, 8 อายตนะ ๓ หน ด้วยสามารถแห่ง
อุปปาติกสัตว์ผู้ทั้งบอดทั้งหนวก อุปปาติกะผู้ทั้งบอดทั้งไม่มีฆานะ และ
อุปปาติกะผู้ทั้งหนวกทั้งไม่มีฆานะ และ 4 อายตนะ ด้วยสามารถแห่ง
อุปปาติกะผู้ที่บอดทั้งหนวกทั้งไม่มีฆานะ ฯ แต่พระองค์ไม่ได้ตรัสไว้
อย่างนี้ ฯ เพราะฉะนั้น ความวิกลด้วยมานะจึงไม่มีแก่อุปปาติกสัตว์
ดังนี้แล ฯ อีกประการหนึ่ง พระอรรถกถาจารย์กล่าวไว้ในอรรถกถา
ยมกปกรณ์ว่า อุปปาติกสัตว์ที่ไม่มีฆานะไม่มี ถ้ามี พระผู้มีพระภาค