ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 81
พรรณนาความปริเฉทที่ ๒
[ข้อความเบื้องต้น]
ท่านพระอนุรุทธาจารย์ ครั้นจำแนกจิตโดยประเภทแห่งภูมิ ชาติ
สัมประโยค สังขาร ฌาน อารมณ์ และมรรค ตามควรอย่างนี้ก่อน
แล้ว เพราะบัดนี้มาถึงวิภาคแห่งเจตสิกเข้าโดยลำดับ เพื่อจะเริ่มตั้ง
ลักษณะของเจตสิกด้วยสามารถแห่งเจตสิกเข้าโดยลำดับ เพื่อจะเริ่มตั้ง
อย่าง ในลำดับนั้น จึงยกเจตสิกธรรมขึ้นแสดงโดนราสี ๓ ด้วย
อำนาจอัญญสมานราสี อกุศลราศี และโสภณราศี แล้วจึงแสดง
สัมประโยคโดยอาการ ๒๖ และสังคหะ (ประมวล) โดยวิธี ๓๓
ประการ แห่งเจตสิกเหล่านั้นก่อน จึงปรารภคำขึ้นต้นว่า เอกุปปาท
นิโรธา จ ดังนี้ฯ
[ลักษณะเจตสิก]
ธรรมเหล่าใด มีความเกิดและความดับในที่เดียวกันกับจิต ธรรม
เหล่านั้น ชื่อว่า "เอกุปปาทนิโรธ" ฯ ธรรมเหล่าใด มีอารมณ์
และวัตถุเป็นอันเดียวกัน ธรรมเหล่านั้นชื่อว่า "เอกาลัมพนวัตถุ" ฯ
สภาพที่ชื่อว่าธรรม เพราะทรงไว้ซึ่งลักษณะของตน ๕๒ ประการ
ประกอบกับจิต คือสัมปยุตด้วยจิตโดยลักษณะ ๔ อย่างนี้ บัณฑิต
ลงมติว่า เจตสิก ทั้งที่ประกอบแน่นอน ทั้งที่ประกอบไม่แน่นอน ฯ
บรรดาลักษณะ (มีความเกิดขึ้นในที่เดียวกันเป็นต้น) เหล่านั้น
* พระอริยเมธี ปัจจุบันเป็นพระธรรมบัณฑิต (มานิต ถาวร) ป.ธ. ๕ วัดสัมพันธวงศ์
พระนคร แปล.