การเห็นรูปของจักษุในอภิธัมมัตถสังคหบาลี อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 158
หน้าที่ 158 / 442

สรุปเนื้อหา

ในบทวิเคราะห์การเห็นรูปของจักษุในอภิธัมมัตถสังคหบาลี พบว่าการเห็นเกิดจากการทำงานร่วมกันของจักขุนทรีย์และวิญญาณ ซึ่งการเห็นรูปต้องการปัจจัยเช่นแสงสว่าง หากขาดปัจจัยนี้การเห็นจะไม่เกิดขึ้น แม้ว่ารูปอื่นๆ จะมีอยู่ก็ตาม อภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกาได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการมีปัจจัยด้านการเห็นรวมถึงความสัมพันธ์ของจักขุและวิญญาณที่ต้องมีความพร้อมเพรียงเพื่อให้การเห็นรูปเป็นไปได้

หัวข้อประเด็น

- การเห็นรูปโดยจักขุวิญญาณ
- ปัจจัยในการเห็นรูป
- ความสัมพันธ์ระหว่างจักขุนทรีย์และวิญญาณ
- อภิธัมมัตถสังคหบาลี
- อภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 158 [อธิบายการเห็นรูปของจักษุ] " บทว่า ภวงฺคโสต์ แปลว่า ห้วงแห่งภวังค์ฯ บทว่า อาวชฺเชนต์ คือทำการนึก ดุจกล่าวว่า นี้ชื่ออะไร ฯ บทว่า ปสฺสนต์ แปลว่า เห็นโดยประจักษ์ฯ มีคำถามสอดเข้ามาว่า จักขุนทรีย์เท่านั้น ยัง กิจคือการเห็นให้สำเร็จโดยพระบาลีว่า เห็นรูปด้วยนัยน์ตา ไม่ใช่ วิญญาณมิใช่หรือ ฯ แก้ว่า คำที่ท่านกล่าวนี้ไม่เป็นจริงอย่างนั้น เพราะ รูปไม่สามรรถเห็นรูปได้ เพราะเป็นอายตนะมืด ก็ถ้าหากว่าจักขุนทรีย์ นั้น จะเห็นรูปได้ไซร้ เมื่อเป็นเช่นนั้น จักขุนทรีย์แม้มีความ พร้อมเพรียงด้วยวิญญาณอื่น จึงพ้องกันในการเห็นรูปฯ มีคำถาม อีกว่า "ถ้าวิญญาณยังกิจคือการเห็นนั้นให้สำเร็จได้ วิญญาณก็จะพึง เห็นรูปที่มีวัตถุอื่นคั่นได้ เพราะไม่ต้องเนื่องกับอะไร ๆ แก้ว่า การเห็น รูปแม้ที่มีวัตถุอื่นคั่น จะมีได้หรือ (เพราะว่า) รูปใดที่ตั้งอยู่ภายใน มีภายในแก้วผลึกเป็นต้นไม่เนื่องด้วยแสงสว่าง และรูปใดที่มีวัตถุอื่น มีฝาเรือนเป็นต้นบังไว้ ถึงเนื่องด้วยแสงสว่างนั้น วิญญาณก็ไม่เกิดในรูป ทั้ง ๒ นั้น เพราะไม่มีปัจจัยคือแสงสว่างนั้น เพราะเหตุนั้น การรับ (การเห็น) รูปนั้น ด้วยจักขุวิญญาณจึงไม่มี " แต่ในพระบาลีว่า จกฺขุนา นี้ มีอธิบายว่า การเห็นรูปด้วยทวารนั้น ซึ่งเป็นต้นเหตุ ฯ อีกอย่างหนึ่ง อธิบายว่า กิริยาคือการเห็นของวิญญาณผู้อาศัย พระผู้มี พระภาคตรัสว่า เนื่องด้วยจักขุซึ่งเป็นที่อาศัย ดุจในประโยคว่า เตียงโห่ ฯ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More