ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 161
เป็นกิจของตทาลัมพนะฯ ก็จิตที่เป็นไปอยู่อย่างนี้พึงทราบว่า เป็นไป
ด้วยอำนาจจิตนิยมเท่านั้น ดุจฤดูนิยมและพืชนิยมเป็นต้นฉะนั้น แม้เมื่อ
ไม่มีการกผู้ชักจูง โดยนัยเป็นต้นว่า ท่านที่ชื่อว่าอาวัชชนะ จงมีในลำดับ
แห่งภวังค์ ท่านมีชื่อว่าทัสสนะเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง จงมีในลำดับ
แห่งอาวัชชนะฯ สัมพันธ์ความว่า ด้วยอำนาจแห่งจิตตุปบาทเพียงเท่านี้
๑๓ ขณะจิตก็เต็มบริบรูณ์ ฯ
[อธิบายตทาลัมพนะไม่เกิด
บทว่า อปฺปโหนฺตาตีตก คือ ล่วงไปไม่เพียงพอ ฯ คำว่า
นตฺถิ ตทาลมุพนุปฺปาโท ความว่า ตทาลัมพนะไม่เกิดในมหันตารมณ์
ซึ่งมีอายุชั่ว ๑๔ ขณะจิต (เท่ากับขณะจิต ๑๔ ดวง) เพราะอารมณ์
ดับไปเสียก่อน ๆ จริงอยู่ ในวิถีเดียวกัน เมื่อจิตบางเหล่ามีอารมณ์เป็น
ปัจจุบัน จิตบางเหล่าจะมีอารมณ์เป็นอดีตไม่ได้ต่อจากชวนะเกิด ใน
อารมณ์แม้มีอายุชั่ว ๑๕ ขณะจิต ยังเหลือเพียงขณะจิตเดียวเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ความเกิดขึ้นแห่งตทาลัมพนะ ๒ จึงไม่มี เพราะมี
อารมณ์ไม่เพียงพอแก่การเกิดตทาลัมพนะ ๒ ครั้ง เพราะเหตุนั้น
แม้ตทาลัมพนะที่ ๑ ก็ไม่เกิด ฯ จริงอยู่ ตทาลัมพนะเกิด ๒ ครั้งเท่านั้น
พระผู้มีพระภาคทรงกำหนดไว้ในพระบาลี เพราะวาระจิตเพียง ๒
วาระมาในวาระทั้งปวง ในการคำนวณความเป็นไปของจิตว่า "วาระ
จิตเพียง ๒ วาระเท่านั้น มาในตทาลัมพนะ " ฯ แต่คำที่ท่านอนุรุทธา
จารย์กล่าวไว้ในปรมัตถวินิจฉัยว่า ตทาลัมพนะ มีครั้งเดียว