ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 386
กับรูปไม่มี, รูปที่เป็นเพียงอารมณ์แห่งนามซึ่งบังเกิดเพราะอาศัยวัตถุ
นั่นแล ชื่อว่าอาลัมพนะ เพราะฉะนั้น นามเหล่านั้น ก็ไม่มีการ
รังเกียจในการสัมประโยคแม้กับอาลัมพนะนั้น เพราะฉะนั้น ธรรม
เหล่าใด มีความรังเกียจในสัมประโยค ธรรมเหล่านั้นนั่นแล แม้เป็น
วิปปยุตตปัจจัย พระผู้มีพระภาคก็ตรัสไว้แล้วดังนี้ จึงกล่าวคำมีอาทิว่า
โอกฺกนฺติกฺขเณ วตฺถุ ดังนี้ ฯ
0
อัตถิปัจจัยและอวิคตปัจจัย มีถึง ๕ อย่างดังนี้ คือ ปัจจัยชายที่เกิด
ร่วมกัน ๓ อย่าง ๑ ที่เกิดก่อน ๒ อย่าง ๑ ที่เกิดภายหลังอย่างเดียว ๑
ที่ท่านกล่าวไว้แล้วด้วยอำนาจแห่งนามรูปตามสมควร โดยประการทั้งปวง
คือโดยประการทุกอย่าง, บรรดาอาหาร ได้แก่กวฬิงการาหาร ๑
รูปชีวิตนทรีย์ ๑ ฯ ก็ภาวะแห่งธรรมอันทำความค้ำจุน โดยอัตถิภาพ
แก่ธรรมที่ไม่ทำความค้ำจุน โดยไม่มีอัตถิภาย เพราะธรรมเหล่านั้น
เป็นสภาพอุปถัมธ์แก่ธรรมเช่นเดียวกันนั้น โดยภาวะแห่งตนมีอยู่ ซึ่ง
มีสภาพเป็นปัจจุบัน ชื่อว่าอัตถิปัจจัย เพราะฉะนั้น พระนิพพานซึ่งมีได้
ทุกกาล จึงไม่เป็นอัตถิปัจจัยและอวิคตปัจจัย ฯ อีกอย่างหนึ่ง ภาวะ
แห่งธรรมที่ประกอบด้วยขณะมีอุปาทขณะเป็นต้น ทำความค้ำจุนซึ่งผิด
จากภาวะแห่งธรรมที่ทำความค้ำจุนโดยนัตถิภาพ และผิดจากภาวะแห่ง
ธรรมที่ทำความค้ำจุนโดยวิคตภาพ ชื่อว่าอัตถิปัจจัยเป็นต้น เพราะฉะนั้น
พระนิพพานนั้น จึงไม่ถึงความเป็นอัตถิปัจจัยและอวิคตปัจจัยนั้น ๆ
ก็บรรดาอัตถิปัจจัยทั้ง ๕ อย่างนี้ รูปชีวิตนทรีย์ พระผู้มีพระภาคไม่ทรง
ถือเอาในพวกสหชาตปัจจัย เพราะเป็นธรรมชาติค้ำจุนเพราะในฐิติขณะ