ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวินีฎีกา - หน้าที่ 427
เกิดในปฏิสนธิกาล ด้วยอำนาจแห่งเหตุคืออวิชชา ตัณหา อุปทาน และ
กรรมก่อน แต่ในปวัติกาล รูปเกิดด้วยอำนาจแห่งปัจจัยคือกรรม จิต ฤดู
และอาหาร, ส่วนนามเกิดด้วยอำนาจแห่งปัจจัยมีนิสสยปัจจัยและอารัมมณ
ปัจจัยมีจักษุกับรูปเป็นต้น, ก็โดยพิเศษ (โดยเฉพาะ) กุศลย่อมเกิดโดย
จตุกกสมบัติมีโยนิโสมนสิการเป็นต้น, อกุศลย่อมเกิดโดยปริยายตรงกัน
ข้ามแห่งจตุกกสมบัติมีโยนิโสมนสิการเป็นต้นนั้น, วิบากย่อมเกิดด้วย
อำนาจแห่งกุศลและอกุศล, อาวัชชนะย่อมเกิดด้วยอำนาจแห่งภวังค์
เป็นต้น, และกิริยาชวนะย่อมเกิดด้วยอำนาจแห่งสันดานของพระขีณาสพ
(ฉะนี้) ได้แก่การกำหนดสมุทยสัจ ชื่อว่ากังขาวิตรณวิสุทธิ เพราะ
กระทำวิเคราะห์ว่า ปัญญา ชื่อว่ากังขาวิตรณา เพราะข้าม คือก้าวล่วง
ความสงสัย ๑๖ อย่าง มีอาทิว่า ในอดีตกาลนานไกล เราได้มีไหมหนอ
และความสงสัย 4 อย่าง มีอาทิว่า ความสงสัยในพระศาสดา และชื่อว่า
วิสุทธิ เพราชำระมลทินคือทิฏฐิ ที่เห็นว่า นามรูปทั้ง ๒ นี้ ไม่มีเหตุ
และมีเหตุไม่เหมือนกัน ฯ
[อธิบายมัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ]
รถ
ต่อจากนั้น คือต่อจากการกำหนดปัจจัย การที่พระโยคีผู้ปรา
วิปัสสนา ปรารภนัยมีขันธ์เป็นต้น ในนามรูปที่ตนกำหนดแล้วอย่างนั้น
คือที่กำหนดด้วยอำนาจการกำหนดลักษณะเฉพาะตนเป็นต้น และด้วย
อำนาจการกำหนดปัจจัย อันนับเนื่องใน ๓ ภูมิ เว้นโลกุตตรภูมิ
ซึ่งแตกต่างกัน โดยความต่างแห่งอดีตเป็นต้น คือปรารภนัยมีขันธ์
๑. ม.ม. ๑๒/๑๔ ฯ