ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 106
ก็ฉันนั้น เหมือนกันกับนางทาสี ไม่ถืออารมณ์ที่กามาวจรกรรมนั้นถือ
ถือเอาเฉพาะอารมณ์ของกามตัณหาเท่านั้น เพราะเนื่องด้วยกามตัณหา
และ ฯ บทว่า ทุวสสธา คือ ในจิต ๓๓ สงเคราะห์โดยอาการ ๑๒ เพราะ
การทำอธิบายว่า ในความต่างแห่งจิตที่เป้ฯกุศล วิบาก และกริยา (๓)
มีการสงเคราะห์ เป็นทุกะ (คู่) อย่างละ ๔ ทุกะ ฯ
บัดนี้ เพื่อจะแสดงธรรมที่ทำความต่างกันแห่งธรรมที่มีอยู่ในทุติย
ฌานเป็นต้น จากธรรมที่มีในปฐมฌานเป็นต้น ในบรรดาเจตสิกธรรม
เหล่านี้ ท่านอาจารย์จึงได้กล่าวคำว่า อนุตฺตเร ฌานธมฺมา เป็นอาทิฯ
ฌานธรรมด้วยอำนาจ วิตก วิจาร ปีติ และสุข ในอนุตตรจิต มีความ
แปลกกัน คือต่างกัน ๆ อัปปมัญญาและฌานธรรมในอมหัคคตจิตปาน
กลางมีความแตกต่างกัน วิรัติ ญาณ และปีติกับอัปปมัญญา ในปริตตะ
คือในกามาวจร มีความแปลกกัน ฯ จึงเห็นว่า บรรดาวิรัติเป็นต้นนั้น
วิรัติทำให้วิบากและกิริยาแปลกจากกุศล อัปปมัญญาทำให้วิบากปลูก
จากกุศลและกิริยา แต่ญาณและปีติ ทำให้คู่ที่ ๒ เป็นต้นแปลกจากจากคู่
ที่ ๑ เป็นต้น ในบรรดากุศลจิต วิบากจิต และกิริยาจิตทั้ง ๓ อย่าง ๆ สอง
บทว่า ทุติเย อสงฺขาริเก เชื่อมความว่า ธรรม ๑๕ ที่มีชื่ออัญญสมานา
และอกุศลสาธารณะอย่างนั้นนั่นแล กับโลภะและมานะ ย่อมถึงการ
สงเคราะห์เข้าในอสังขาริกจิตที่ปราศจากทิฏฐิ ฯ บทว่า ตติเย คือ ใน
อสังขาริกจิตที่ประกอบด้วยทิฏฐิ สหรคตด้วยอุเบกขา ฯ บทว่า จตฺตฺเถ
คือ ในอสังขาริกจิตที่ปราศจากทิฏฐิ ฯ อธิบายว่า ก็อิสสมัจฉริยะ
และกุกกุจจะ พึงจำแนกประกอบไว้ในอกุศลจิตเล่านี้เฉพาะด้วยหนึ่ง ๆ
က