อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 289
หน้าที่ 289 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในหน้าที่ 289 พูดถึงรูปแบบและข้อคิดในอภิธัมมัตถสังคหะ ซึ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจิตกับรูปเข้าไว้ โดยใช้ศัพท์และแนวคิดที่อธิบายคุณธรรมที่สำคัญ เช่น โคจรคาฬิกรูป และอวินิพโภครูป เพื่อให้เข้าใจการเกิดขึ้นของจิตและรูปทั้งหลาย โดยคัดค้านทฤษฎีที่ว่าว่ารูปไม่มีความสัมพันธ์กับกลิ่นหรืออารมณ์ รวมไปถึงการศึกษาเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของจิตในเวลาต่างๆ และการอธิบายจากอาจารย์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน

หัวข้อประเด็น

-อภิธัมมะ
-รูปและจิต
-ธรรมชาติแห่งรูป
-การเกิดของจิต
-ปรัชญาพุทธ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ભૈ ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 289 รูป ๕ อย่าง ชื่อโคจรคาฬิกรูป เพราะมีความเป็นธรรมชาต อันวิญญาณตั้งอาศัยแล้ว รับอารมณ์นั้น ๆ เป็นสภาพฯ รูปนอกนี้ คือ รูป ๒๓ อย่าง ชื่อว่าอโคจรคาฬิกรูป เพราะไม่มีการรับอารมณ์ ฯ ชื่อว่าวรรณะ ด้วยอรรถว่า อันจักขุพึงผล คือพึงเห็น ๆ ชื่อว่าโอชะ ด้วยอรรถว่า ยังรูปให้เกิดในลำดับที่ตนเกิด ฯ รูป 4 อย่าง ชื่อว่า อวินิพโภครูป เพราะไม่มีความพรากจากกันและกัน คือความเป็นไป แยกจากกันเป็นอย่างๆ แม้ในอารมณ์บางอย่าง ฯ ถึงแม้มติของผู้ที่ ชอบพูดว่า ไม่มีกลิ่นเป็นต้นในรูปโลก ก็ถูกท่านอาจารย์ทั้งหลาย คัดค้านเสียแล้ว ในปกรณ์นั้น ๆๆ อิติ ศัพท์ แม้ในคำว่า อิจฺเจว๋ นี้มีปการเป็นอรรถ ฯ ด้วย อิติ ศัพท์ที่ปการเป็นอรรถนั้น พระ อนุรุทธาจารย์ประมวลความต่างแห่งรูปเป็นทุกนัย และติกนัยเป็นต้นมา ไว้ทั้งหมด แม้ที่ยังไม่มาในปกรณ์อภิธัมมัตถสังคหะนี้ ท่านอาจารย์นึกตั้งปัญหาว่า "ก็เหตุมีกรรมเป็นต้นเหล่านั้น อะไร เป็นสมุฏฐานแห่งรูปได้อย่างไร ที่ไหน และเมื่อไร ดังนี้ จึงได้กล่าว คำมีอาทิว่า ตตฺถ ดังนี้ ฯ บทว่า ปฏิสนธิมุปาทาย นั้น ความว่า เข้าถือเอา (คือเริ่มแต่) อุปปาทขณะแห่งปฏิสนธิจิตฯ บทว่า ขณ ขณ ความว่า ในขณะ แห่งจิตดวงหนึ่ง ๆ ซึ่งมีดวงละ ๓ ขณะ ฯ ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า หาระหว่างคั่นมิได้ทีเดียว ฯ แต่อาจารย์พวกอื่นคัดค้านฐิติขณะแห่งจิต และการเกิดขึ้นของรูปในภวังคขณะ ฯ ในข้อคัดค้านทั้ง ๒ นั้น เหตุผล ในการไม่มีฐิติขณะของอาจารย์พวกนั้น และเรื่องที่จะพึงกล่าวใน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More