ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 137
สามารถแห่งกามาวจรวิบาก ๒๓ ปัญจทวาราวัชชนะ ๑ หสนจิต ๑ ย่อม
มีในอารมณ์เล็กน้อย คือในอารมณ์เป็นกามาวจรอย่างเดียว ฯ แท้จริง
กามาวจรชื่อว่าปริตตะ เพราะอรรถว่า เทียบกับมหัคคตะเป็นต้นแล้ว
ก็เป็นเหมือนถูกตัด คือถูกรอนโดยรอบด้าน เพราะกามาวจรนั้นมี
อานุภาพน้อยฯ ในบททั้งปวง มีบทว่า เอกวีสติ เป็นต้น จึงเห็นการ
ประกอบความมีอวธารณะ โดยนัยมีอาทิว่า จิต ๖ ดวงมีในมหัคคตะ
เท่านั้น ดังนี้ฯ
[อธิบายวัตถุสังคหะ]
การสงเคราะห์โดยการจำแนกวัตถุ และโดยอำนาจแห่งการ
กำหนดจิต ที่มีจักษุเป็นต้นนั้นเป็นที่อาศัย ชื่อว่าวัตถุสังคหะฯ จักษุ
เป็นต้น ที่ชื่อว่าวัตถุ เพราะอรรถว่า เป็นที่อยู่อาศัยของจิตและเจตสิน
เพราะเป็นที่อาศัยแห่งจิตและเจตสิกนั้นๆ วัตถุแม้ทั้งปวงย่อมได้ใน
กามโลก เพราะมีได้แก่สัตว์ผู้มีอินทรีย์บริบูรณ์เฉพาะในกามโลกนั้น
นั่นแลฯ ก็ด้วย ปิ ศัพท์ในบทว่า สพฺพตฺถาปิ นี้ ท่านอาจารย์แสดง
ความที่วัตถุมีจักษุเป็นต้นบางเหล่า ไม่มีด้วยอำนาจแห่งคนผู้บอดและ
ผู้หนวกเป็นต้นฯ วัตถุทั้ง ๓ มีฆานะเป็นต้น ชื่อว่าไม่มีแก่พวกพรหม
เพราะพวกพรหมมีการสำรอกความกำหนัดแม้ในประสาทที่มีกลิ่น รส
ล
และโผฏฐัพพะนั้นเป็นอารมณ์ เพราะปราศจากความพอใจในกลิ่น
รส และโผฏฐัพพะ ด้วยอำนาจภาวนาสำรอกกาม ๆ แต่วัตถุ ๒ มี
จักษุเป็นต้น ซึ่งมีประโยชน์ในกิจมีการเห็นพระพุทธเจ้าและฟังธรรม
เป็นต้น ได้อยู่ในรูปโลกนั้น เพราะพวกพรหมยังไม่คลายจากความ