ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 37
ขุดสุขทางกายเสีย ฯ อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าทุกข์ เพราะอรรถว่า ทนได้
ยาก อาจารย์พวกอื่นกล่าวว่า ธรรมชาติชื่อว่าทุกข์ เพราะอรรถว่า
การให้โอกาสแก่ธรรมชาตินั้น ทำได้ยาก ดังนี้บ้าง ฯ
จิตที่ชื่อว่าสัมปฏิจฉันนะ เพราะอรรถว่า รับอารมณ์มีรูปเป็นต้น
ที่ปัญจวิญญาณรับแล้ว โดยความเป็นไปด้วยอาการนั้น ๆ
จิตที่ชื่อว่าสันตีรณะ เพราะอรรถว่า ใคร่ครวญ คือพิจารณารูป
ตามที่รับไว้แล้วโดยชอบ ฯ
[อธิบายวิบากวิจิตเป็นต้น]
ที่ชื่อว่าวิบาก เพราะอรรถว่า เป็นผลแห่งกุศลและอกุศล ซึ่ง
ขัดแย้งกันและกัน คำว่า วิบาก นี้ เป็นชื่อของอรูปธรรมที่มีถึงความ
เป็นวิบากฯ ก็เพราะอธิบายอย่างนี้ การเรียกว่าวิบาก จึงไม่มีแก่
กตัตตารูป แม้ที่มีกุศลกรรมและอกุศลกรรมเป็นสมุฏฐาน จิตที่
เป็นวิบาก (ผล) แห่งอกุศล ชื่อว่าอกุศลวิบากจิต ฯ
ธรรมชาติที่ชื่อว่า สุข เพราะอรรถว่า ทำกายและจิตให้ปลอดโปร่ง
หรือเพราะขุดความลำบากทางกายและจิตเสียด้วยดี หรือเพราอดทนได้
ง่าย อาจารย์พวกอื่นกล่าวว่า ที่ชื่อว่าสุข เพราะอรรถว่า การให้โอกาส
แก่ธรรมชาตินั้น ทำได้ง่าย ดังนี้บ้าง ฯ
มีคำท้วงว่า ก็เพราะเหตุไร สันตีรณะฝ่ายกุศลวิบาก ท่านอาจารย์
จึงไม่กล่าวให้เหมือนสันตีรณะฝ่ายอกุศลวิบาก ซึ่งกล่าวไว้เพียงอย่างเดียว
กล่าวไว้ถึง ๒ อย่าง ฯ
เฉลยว่า เพราะมีความต่างกันแห่งเวทนา ด้วยสามารถแห่ง