ข้อความต้นฉบับในหน้า
สหรคต
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 104
มาซึ่งคำว่า อัญญสมานเจตสิก และโสภณเจตสิก เว้นอัปปมัญญา ย่อม
ถึงการสงเคราะห์เข้าฯ บทว่า อุเปกขาสหคตา ได้แก่ ธรรมที่สหร
ด้วยอุเบกขา ซึ่งเข้าร่วมฐานแห่งสุข เว้นเสียจากวิตกวิจารปีติและสุขฯ
บทว่า ปญฺจกชุฌานวเสน ความว่า ตามอำนาจแห่งฌานหมวด ๕ ที่
ทรงแสดงด้วยสามารถแห่งบุคคลผู้มีฌานไม่แก่กล้านัก ซึ่งเจริญผ่านวิตก
และวิจารไปเป็นองค์ ๆๆ อธิบายว่า แต่มีการสงเคราะห์ 4 อย่างด้วยกัน
เพราะธรรมที่เว้นจากวิตกวิจารเกิดในจิตที่ประกอบในฌานที่ ๒ ได้
ตามอำนาจฌานหมวด ๔ ที่ทรงแสดงด้วยสามารถแห่งบุคคลผู้มีญาณ
แก่กล้า ซึ่งเจริญผ่านวิตกและวิจารเหล่านั้นไปพร้อม ๆ กัน ฯ ธรรม
๓๓ คู่ ได้ในจิตที่ประกอบในฌานที่ ๔ และที่ ๕ ฯ บทว่า ตสุ คือ ๓
อย่าง ด้วยอำนาจกุศล วิบาก และกิริยา ฯ มหัคคตฌานทั้งหลายย่อมเป็น
ไปโดยเพียงแต่ความตั้งมั่นแห่งจิตอย่างเดียว แก่บุคคลผู้มีกายประโยค
แต่หา
และวจีประโยคอันตนให้หมดจดดีแล้วด้วยอำนาจแห่งศีลวิสุทธิ
เป็นไปด้วยอำนาจการชำระกายกรรมและวจีกรรมให้หมดจดไม่ ทั้งไม่
เป็นไปด้วยอำนาจการตัดทุจริต และการเลี้ยงชีพผิดทางได้เด็ดขาด
เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึงได้กล่าวว่า วิรติวชชา ดังนี้ ฯ บทว่า
ปจฺเจกเมว คือเป็นแผนก ๆ ฯ บทว่า ปณฺณรสสุ ได้แก่ ในจิต ๑๕
คือในจิต ๓
ด้วยสามารถแห่งรูปาวจรจิต ในจิต ๑๒ ด้วยสามารถแห่ง
อรูปาวจรจิต ฯ เหตุในคำว่า อปฺปมญฺญาโย น ลพฺภนฺติ นี้ ข้าพเจ้า
ได้กล่าวแล้ว ฯ
บทว่า ปจฺเจกเมว คือ เฉพาะอย่างหนึ่ง ๆ ๆ จริงอยู่ อัปปมัญญา