ข้อความต้นฉบับในหน้า
အ
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 205
[อธิบายคำว่า พรหม เป็นต้น]
เหล่าเทพที่ชื่อว่าพรหมปาริสัชชา (คือเป็นบริษัทของพรหม)
เพราะอรรถว่า เกิดในบริษัทของมหาพรหมเหล่านั้น เพราะเป็นผู้
บำรุงบำเรอพวกพรหมฯ ที่ชื่อว่าพรหมปุโรหิตา เพราะดำรงอยู่
ในตำแหน่งแห่งปุโรหิตของพวกมหาพรหมเหล่านั้น ฯ ที่ชื่อว่าพรหม
เพราะอรรถว่า เจริญ คือรุ่งเรืองด้วยคุณวิเศษทั้งหลายมีฌานเป็นต้น
นั้น ๆๆ ที่ชื่อว่ามหาพรหม เพราะอรรถว่า เป็นพรหมผู้ใหญ่กว่า
พวกพรหมชั้นปาริสัชชาเป็นต้น โดยความเป็นผู้มีวรรณะ และความ
เป็นผู้มีอายุยืนนานเป็นต้นฯ พรหมแม้ ๒ จำพวกนี้ สถิตอยู่ในชั้น
เสมอกัน ซึ่งรุ่งเรืองด้วยรัศมีแห่งรัตนะที่ประณีตกว่ากัน ฯ ก็พวกพรหม
ที่ชื่อว่าปริตตาภา เพราะอรรถว่า พรหมเหล่านี้ มีรัศมีมีซ่านไป คือ
พรหมชั้นสูงๆ ขึ้นไป ๆ ที่ชื่อว่าอัปปมาณาภา เพราะอรรถว่า
พรหมเหล่านี้ มีรัศมีประมาณไม่ได้ (คือมีรัศมีมากไม่มีประมาณ) ฯ
ที่ชื่อว่าอาภัสสรา เพราะอรรถว่า พรหมเหล่านี้ มีรัศมีซ่านไป คือ
แผ่ออกไปแต่ที่นี้ และที่นี้ ดุจสายฟ้าแลบออกจากกลีบเมฆฉะนั้น
เพราะพรหมเหล่านั้น มีขันธสันดานเกิดมาจากฌานที่มีปีติ ฯ อีกนัย
หนึ่ง ชื่อว่าอาภัสสรา เพราะอรรถว่า พรหมเหล่านี้ มีรัศมีพวยพุ่ง
คือหยดย้อยออก เหมือนขาดตกออกจากสรีระดุจเปลวไปแห่งโคมประ
ทีปด้ามฉะนั้น ๆ อีกอย่างนั้น ชื่อว่าอาภัสสรา เพราะอรรถว่า มี
ปกติสว่างไสวด้วยรัศมีตามที่กล่าวแล้ว ฯ พรหม ๓ จำพวกแม้เหล่านี้
สถิตอยู่ในชั้นเดียวกันที่รุ่งเรืองด้วยรัศมีแห่งรัตนะที่ประณีตกว่ากัน ฯ