ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 241
กรรมอย่างเดียว เพื่อจะแสดงผลที่เห็นสม (เสมอ) ด้วยกรรม ไม่ได้
ยกความเกิดแห่งทุเหตุกปฏิสนธิขึ้นไว้ เหมือนดังที่ท่านเว้นความเกิด
แห่งอเหตุกปฏิสนธิในสุคติ
ด้วยความวิบัติแห่งคนบอดและคนหนวก
แต่กำเนิดเป็นต้น แล้วจึงยกความเกิดแห่งทุเหตุกปฏิสนธิขึ้นด้วยทุเหตุก
กรรมอย่างเดียว เพื่อจะแสดงความเกิดแห่งสเหตุกปฏิสนธิ ด้วยความ
ถึงพร้อมแห่งคติ ไม่ได้ยกความเกิดแห่งอเหตุกปฏิสนธิขึ้นไว้ เหมือน
อย่างนั้น แต่ท่านไม่ได้ยกขึ้นไว้ เพราะไม่ได้ (ความเกิดแห่งทุเหตุก
ปฏิสนธิ) ด้วยติเหตุกรรม" ฯ
[อธิบายมติของอาจารย์บางรูปเรื่องวิบาก
ด้วยประการดังที่กล่าวมานั้น ท่านอาจารย์ครั้นแสดงความเป็น
ไปแห่งวิบาก ด้วยอำนาจวาทะของท่านติปิฎกจุฬานาคเถระ ที่เป็นไป
อย่างนี้ว่า "เจตนาดวงเดียวมีวิบาก ๑๖ อย่าง ในกรรมที่กุศลเจตนา
ดวงเดียว ประมวลมาแล้วนี้แล มีประมาณ ๑๒ อย่าง (ด้วยอำนาจ
ทุเหตุกปฏิสนธิ) แม้ที่เป็นอเหตุกะก็มี 4 อย่าง (ด้วยอำนาจอเหตุก
ปฏิสนธิ)" ดังนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะแสดง (ความเป็นไปแห่งวิบาก
เหล่านั้น) ด้วยอำนาจแม้แห่งวาทะของท่านโมรวาปีวาสีเถระ และ
ท่านมหาธรรมรักขิตเถระ ที่มาแล้วอย่างนี้ว่า "เจตนาดวงเดียว มี
วิบาก ๑๒ อย่าง ในกรรมที่เจตนาดวงเดียว ประมวลมาแล้วอย่างนี้แล
มีประมาณ ๑๐ อย่าง แม้ที่เป็นอเหตุกะก็มี 4 อย่าง " จึงได้กล่าวคำ
เป็นต้นว่า "อสงฺขาร์ สสงฺขารวิปากานิ" ฯ