ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 432
แห่งความบริสุทธิ์ของญาณทัสสนะ โดยอรรถว่า รู้ไตรลักษณ์ โดย
อรรถว่า เห็นโดยประจักษ์ และเพราะบริสุทธิ์จากธรรมที่เป็น
เป็นขาศก ฯ
จบนัยวิสุทธิ ๖ ฯ
[อธิบายญาณทัสสนวิสุทธิ
ความแก่รอบแห่งวิปัสสนาก็คือสังขารุเปกขาญาณ มาถึง ได้แก่
อาศัยสังขารุเปกขาญาณนั้นๆ คำว่า อิทานิ อปุปนา อุปฺปชฺชิสสติ
ความว่า ในขณะที่ควรกล่าวว่า บัดนี้ โลกุตตรมรรค กล่าวคือ
อัปปนาจักเกิดขึ้น ฯ บทว่า ยงกิญจิ ได้แก่ บรรดาลักษณะ ๓ ที่
สังขารุเปกขากำหนด (ถือเอา) ลักษณะอันหนึ่ง ชื่อว่าลักษณะ
อย่างใดอย่างหนึ่ง ๆ วิปัสสนาใด ถึงยอด โดยถึงที่สุดแห่งวิปัสสนา
วิปัสสนานั้น ท่านเรียกว่าสานุโลมา เพราะเป็นไปกับด้วยอนุโลม
ญาณฯ วิปัสสนานั้นนั่นแล ท่านเรียกชื่อว่าสังขารุเบกขา เพราะ
วางเฉยในสังขารทั้งหลาย ว่าวุฏฐานคามินี ก็เพราะดำเนินไปถึงมรรค
બૃ
กล่าวคือทางออก เพราะออกไปจากอบายเป็นต้น และจากนิมิตคือ
สังขาร ตามควรอย่างไร ฯ บทว่า อภิสมโภนฺติ คือ ลุถึง ฯ บทว่า
ปริชานนฺโต คือ กำหนดรู้ว่า ทุกข์นี้เท่านี้ ไม่หย่อนและยิ่งกว่านี้ไป
(ไม่มีหย่อนหรือยิ่งกว่าทุกข์นี้ไป) 1 บทว่า สจฺฉิกโรนฺโต ได้แก่
กระทำให้ประจักษ์ โดยอำนาจการกระทำให้เป็นอารมณ์ ฯ บทว่า
มคฺคสจฺจภาวนาวเสน ได้แก่ ด้วยอำนาจแห่งการให้สัจจะที่ 4 กล่าว
คือมัคคสัจ คือที่เรียกว่าองค์มรรค อันสัมปยุตเจริญ (โดยฐาน)
เป็นปัจจัยมีสหชาตปัจจัยเป็นต้นฯ การที่ญาณดวงเดียวเท่านั้นทำ
ન
ๆ