ข้อความต้นฉบับในหน้า
9
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 114
0
[สังคหคาถา]
บัณฑิตพึงแสดงจิตที่เป็นในทวารเดียว ๑ ที่
เป็นไปในทวารทั้งห้า ๑ ที่เป็นไปในทวารทั้งหก
ที่เป็นไปในทวารทั้ง ๖ บางคราวพ้นจาก
ทวาร ๑ ที่พ้นจากทวารโดยประการทุกอย่าง ๑
โดยประการ ๕ อย่าง คือจิต ๓๖-๓-๓๑-๑๐
และ ๕ ตามลำดับ
ન્
ชื่อว่าอารมณ์ ในอาลัมพนสังคหะ มี 5 อย่าง คือ รูปารมณ์ ๑
สัททารมณ์ ๑ คันธารมณ์ ๑ รสารมณ์ ๑ โผฏฐัพพารมณ์ ๑ ธัมมารมณ์
๑ ฯ บรรดาอารมณ์เหล่านั้น รูปนั่นแล ชื่อว่ารูปารมณ์ เสียงเป็นต้น
ชื่อว่าสัททารมณ์เป็นต้น ก็อย่างนั้น ๆ ส่วนธัมมารมณ์ท่านสงเคราะห์ไว้
5 อย่าง ด้วยอำนาจ ปสาทรูป ๑ สุขุมรูป ๑ จิต ๑ เจตสิก ๑ นิพพาน ๑
บัญญัติ ๑ ฯ บรรดาอารมณ์เหล่านั้น จิตที่เป็นไปในจักขุทวารแม้ทั้งหมด
มีรูปเท่านั้นเป็นอารมณ์ และรูปนั้นเฉพาะที่เป็นปัจจุบัน ฯ เสียงเป็นต้น
เฉพาะที่เป็นปัจจุบันเท่านั้น เป็นอารมณ์แม้ของจิตมีจิตที่เป็นไปทาง
โสตทวารเป็นต้น ก็อย่างนั้น ๆ ส่วนจิตที่เป็นไปทางมโนทวาร มี
อารมณ์ ๖ อย่าง เป็นปัจจุบัน อดีต อนาคต และกาลวินิมุต ตาม
สมควร ฯ แต่จิตที่พ้นจาก
นจากทวาร คือปฏิสนธิจิต ภวังคจิต และจุติจิต
มีอารมณ์แม้ทั้ง 5 อย่าง ที่ทวาร ๖ ถือเอาในภพอื่น เป็นปัจจุบันและ
อดีตโดยมาก ตามสมควรแก่การสมภพ หรือเป็นบัญญัติที่เรียกกันว่า
กรรม กรรมนิมิต และคตินิมิตฯ บรรดาจิตเหล่านั้น จักขุวิญญาณ