ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 59
ต่างแห่งอารมณ์ คือโคจร ๔ อย่าง มีอากาศเป็นต้นที่จะพึงก้าวล่วง
และที่จะพึงยึด กล่าวคือกสิณ อากาศ วิญญาณ และความไม่มีวิญญาณ
นั้น ๆ จริงอยู่ อรูปาวจรจิตนั้น ก้าวล่วงกสิณนิมิตที่เป็นอารมณ์
แห่งปัญจมฌานแล้วยึดอากาศที่ได้แล้วด้วยการเพิกกสิณนิมิตนั้น แล้ว
ล่วงอากาศแม้นั้น หน่วงวิญญาณที่เป็นไปในอากาศนั้น ล่วงวิญญาณ
นั้น หน่วงเอาอากิญจนภาพ ซึ่งเป็นธรรมชาติไม่มีอรูปวิญญาณที่ ๑
นั้น และล่วงนัตถิภาพ (ความไม่มี) แม้นั้นเสีย หน่วงเอาอรูป
วิญญาณที่ ๓ ที่เป็นไปในนัตถิภาพ (ความไม่มี) นั้นเป็นไปตามลำดับ
แต่หาถือเอาอารมณ์แม้แห่งฌานต้น ๆ เป็นไปด้วยสามารถแห่งอันก้าว
ล่วงองค์ต้น ๆ ดุจรูปาจรกุศลจิตไม่ ฯ เหตุนั้น พระอาจารย์ทั้งหลาย
จึงได้กล่าวไว้ว่า
อรูปสมาบัติแม้ทั้ง ๔ นี้ย่อมมี โดยก้าวล่วง
อารมณ์ นักปราชญ์ทั้งหลาย ไม่ประสงค์
เอาการก้าวล่วงองค์แห่งอรูปสมาบัติทั้ง ๔
เหล่านี้ ฯ
พรรณนาอรูปาวจรจิต จบ ฯ
[โลกกุตตรกุศลจิต]
บัดนี้ เพื่อจะแสดงจำแนกโลกุตตรกุศลจิตออกเป็น ๔ ประการ
เพราะประกอบด้วยมรรค ๔ และผลเป็น ๔ ประการ เพราะเป็น
ไปโดยอนุรูปแก่โลกุตตรกุศลนั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวคำมีอาทิว่า
โสตาปตฺติมคฺคจิตฺติ ดังนี้ ฯ