ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 294
เกิดขึ้นได้ เพราะประกอบด้วยความสามารถในอันให้เกิดในอุปปาท
ขณะเท่านั้น โดยการได้ปัจจัยมีอนันตรปัจจัยเป็นต้นฯ
กิริยาเดินเป็นต้น ชื่อว่าอิริยาบถ เพราะเป็นทางแห่งความ
เป็นไปของการเคลื่อนไหว คือกิริยาทางร่างกาย ฯ โดยเนื้อความได้
แก่รูปปวัติ ซึ่งมีการกำหนดด้วยการเดินเป็นต้นนั้นๆ อัปปนาชวนะ
อุดหนุนอิริยาบถแม้นั้น คือค้ำจุนตามที่เป็นไปแล้ว ๆ เหมือนอย่างว่า
เมื่อภวังคจิตที่ไม่ถูกวิถีจิตปะปนเป็นไปอยู่ อวัยวะทั้งหลาย ย่อมนิ่ง
เฉยอยู่ฉันใด เมื่อจิต ๓๒ เหล่านี้ ที่อาจารย์กำลังจะกล่าว และ
ชาครณจิต ๒๖ กำลังเป็นไปอยู่ อวัยวะทั้งหลายจะสงบนิ่งเฉลยอยู่ฉันนั้น
หามิได้ฯ ก็ในกาลนั้น อวัยวะทั้งหลายที่ยกขึ้นแล้วและยกขึ้นแล้ว
จะเป็นไปโดยความเป็นอิริยาบถ ตามที่เคลื่อนไหวไปแล้วนั่นแล
คือย่อมยังวิญญัติให้ตั้งขึ้น ฯ
ન્
ติให้ตั้งขึ้น ๆ มิใช่ยังรูปและอิริยาบถอย่างเดียวเท่านั้น
ให้เกิดขึ้น ๆ แต่บัณฑิตพึงทราบสันนิษฐานในคำว่า โวฏฺฐพฺพน
ฯ เป ฯ ชเนนฺติ นี้ แม้โดยคำอันไม่แปลกกันว่า โวฏฐวนจิตและ
ชวนจิต ที่เป็นไปในมโนทวารเท่านั้น ให้เกิดวิญญัติได้ฉันใด และ
โสมนัสชวนะเฉพาะที่ถึงมโนทวารให้เกิดความร่าเริงได้ฉันนั้น เพราะ
ชวนะทั้งหลายที่เป็นไปทางทวาร ๕ หย่อนกำลังโดยรอบ ๆ ก็บรรดา
รูปอิริยาบถและวิญญัตินี้ อิริยาบถหรือวิญญัติที่พ้นไปจากรูปย่อมไม่มี
ก็จริง ถึงอย่างนั้นก็ดี จิตที่ยังรูปให้เกิดขึ้นทั้งหมด ย่อมช่วยค้ำจุน
อิริยาบถ และให้วิญญัติเกิดขึ้นไม่ได้ ฯ แต่จิตที่ให้วิญญัติเกิด
ช่วยค้ำจุนอิริยาบถ โดยแท้ เพราะอิริยาบถกับวิญญัติไม่มีการเว้นจากกัน