ปฏิจจสมุปบาทนัยในอภิธัมมัตถสังคหบาลี อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 347
หน้าที่ 347 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในบทนี้กล่าวถึงปฏิจจสมุปบาทนัยซึ่งอธิบายการเกิดขึ้นของทุกข์ โดยเริ่มต้นจากสฬายตนะซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดผัสสะและเวทนาจนถึงชาติและมรณะ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตามลำดับของปัจจัยที่เครือข่ายและเกี่ยวข้องกัน โดยอธิบายถึงอัทธา องค์ และวัฏฏะแห่งการเกิดทั้งสามช่วงเวลา อดีต ปัจจุบัน และอนาคต。

หัวข้อประเด็น

- ปฏิจจสมุปบาทนัย
- ความหมายขององค์ ๑๒
- การเกิดของทุกข์
- อวิชชาและสังขาร
- ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและผล

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 347 เป็นปัจจัยเกิดสฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัยจึงเกิดผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัยจึงเกิดอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัยจึงเกิด ภพ เพราะภพเป็นปัจจัยจึงเกิดชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัยจึงเกิดมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส, กองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมเกิดขึ้นด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้ ชื่อว่าปฏิจจสมุปบาทนัย ในอธิการ แห่งปัจจัยสังคหะนี้ฯ ในปฏิจจสมุปบาทนัยนั้น บัณฑิตพึงทราบอัทธา ๓ องค์ ๑๒, อาการ ๒๐, สนธิ ๓, สังเขป ๔, วัฏฏะ ๓, และมูล ๒ ฯ พึงทราบ อย่างไร ? พึงทราบอย่างนี้ อัทธา ๓ คือ อวิชชาและสังขาร เป็นอดี ตัทธา (อดีตกาล) ชาติ ชรา และมรณะ เป็นอนาคตทธา (อนาคต- กาล) องค์ทั้ง ๘ ในท่ามกลาง เป็นปัจจุปันนัทธา (ปัจจุบันกาล)ฯ องค์ ๑๒ คือ อวิชชา สังขาร วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชรา มรณะ ฯ ก็คำว่าโสกะเป็นต้น ในปฏิจจสมุปบาทนัยนี้ เป็นการแสดงผลที่ไหลออกมา (จากชาติ) ฯ แต่ในปฏิจจสมุปบาทนัยนี้ ทั้งตัณหา อุปาทาย และภพ ย่อมเป็น อันท่านถือเอาแล้วด้วยศัพท์ว่า อวิชชาและสังขาร, อนึ่ง อวิชชา และสังขาร ท่านก็ถือเอาด้วยศัพท์ว่า ตัณหา อุปาทานและภพ และ ผล ๕ อย่าง มีวิญญาณเป็นต้น ท่านก็ถือเอาศัพท์ว่า ชาติ ชราและ มรณะเช่นเดียวกัน เพราะทำอธิบายอย่างนี้ ท่านจึงกล่าวว่า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More