ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 396
กายคตาสติ เป็นสัปปายะแก่คนราคจริตฯ อัปปมัญญา ๔ และ
กสิณ ๔ มีนีลกสิณเป็นต้น เป็นสัปปายะแก่คนโทสจริต ฯ อานาปานะ
เป็นสัปปายะแก่คนโมหจริตและวิตกจริตฯ อนุสสติ ๖ มีพุทธานุสสติ
เป็นต้น เป็นสัปปายะแก่คนสัทธาจริต ฯ ความตาย ความสงบ สัญญา
และการกำหนด (มรณัสสติ อุปสมานุสสติ อาหาเรปฏิกูลสัญญา
จตุธาตุววัตถาน) เป็นสัปปายะแก่คนพุทธิจริตฯ ส่วนกรรมฐานแม้
ทั้งหมดที่เหลือ เป็นสัปปายะแม้แก่คนมีจริตทุกอย่าง ฯ บรรดากสิณ
แม้เหล่านั้น กสิณที่มีวงกว้าง เป็นสัปปายะแก่คนโมหจริตฯ กสิณ
วงเล็ก เป็นสัปปายะแก่คนวิตกจริตแล ฯ
นี้เป็นความต่างแห่งสัปปายะ ในอธิการว่าด้วยจริตนี้ ฯ
[ภาวนาเภท]
๓๐
ก็ในภาวนาทั้งหลาย บริกรรมภาวนามีได้ในกรรมฐานแม้ทุก
อย่างทีเดียว ฯ อุปจารภาวนา ย่อมสำเร็จได้ในกรรมฐาน ๑๐ คือ
อนุสสติ ๒ ข้างต้น มีพุทธานุสสติเป็นต้น และปฏิกูลสัญญา ๑ จตุ
ธาตุววัตถาน ๑ แต่ไม่มีอัปปนาฯ ส่วนในกรรมฐาน ๓๐ ถ้วนที่เหลือ
สำเร็จได้ทั้งอุปจารภาวนา ทั้งอัปปนาภาวนา ฯ ในกรรมฐาน
แม้เหล่านั้น กรรมฐานมีรูปาวจรฌานได้ (คือประกอบในรูปาวจรฌาน,
ให้สำเร็จรูปาวจรฌาน) ๒๖ อย่าง คือ กสิณ ๑๐ และอานาปานะ
มีปัญจกฌานได้ (ประกอบในปัญจกฌาน) ฯ อสุภ ๑๐ และกายคตาสิต
มีปฐมฌานได้, อัปปมัญญา ๒ ข้างต้นมีเมตตาเป็นต้นมีฌานหมวด ๔ ได้
อุเบกขา มีปัญจมฌานได้ ฯ ส่วนอรูป ๔ มีอรูปฌาน (ประกอบใน