ความแตกต่างของสัปปายะในกรรมฐาน อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 396
หน้าที่ 396 / 442

สรุปเนื้อหา

ในเรื่องของสัปปายะ มีความแตกต่างในแต่ละประเภทของจริต โดยมีการแยกประเภทกรรมฐานตามจริตที่ต่างกัน เช่น กายคตาสติและอานาปานะที่เหมาะกับคนประเภทที่แตกต่างกัน โดยอุปจารภาวนาและอัปปนาภาวนาก็มีบทบาทในกรรมฐานแต่ละประเภท รวมถึงการมีรูปาวจรฌานและอรูปฌานในกรรมฐานที่ต่างกันที่สามารถช่วยในการฝึกสมาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

หัวข้อประเด็น

-สัปปายะในกรรมฐาน
-ประเภทจริต
-การปฏิบัติทางจิตใจ
-การฝึกสมาธิ
-อภิธัมมัตถสังคหบาลี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 396 กายคตาสติ เป็นสัปปายะแก่คนราคจริตฯ อัปปมัญญา ๔ และ กสิณ ๔ มีนีลกสิณเป็นต้น เป็นสัปปายะแก่คนโทสจริต ฯ อานาปานะ เป็นสัปปายะแก่คนโมหจริตและวิตกจริตฯ อนุสสติ ๖ มีพุทธานุสสติ เป็นต้น เป็นสัปปายะแก่คนสัทธาจริต ฯ ความตาย ความสงบ สัญญา และการกำหนด (มรณัสสติ อุปสมานุสสติ อาหาเรปฏิกูลสัญญา จตุธาตุววัตถาน) เป็นสัปปายะแก่คนพุทธิจริตฯ ส่วนกรรมฐานแม้ ทั้งหมดที่เหลือ เป็นสัปปายะแม้แก่คนมีจริตทุกอย่าง ฯ บรรดากสิณ แม้เหล่านั้น กสิณที่มีวงกว้าง เป็นสัปปายะแก่คนโมหจริตฯ กสิณ วงเล็ก เป็นสัปปายะแก่คนวิตกจริตแล ฯ นี้เป็นความต่างแห่งสัปปายะ ในอธิการว่าด้วยจริตนี้ ฯ [ภาวนาเภท] ๓๐ ก็ในภาวนาทั้งหลาย บริกรรมภาวนามีได้ในกรรมฐานแม้ทุก อย่างทีเดียว ฯ อุปจารภาวนา ย่อมสำเร็จได้ในกรรมฐาน ๑๐ คือ อนุสสติ ๒ ข้างต้น มีพุทธานุสสติเป็นต้น และปฏิกูลสัญญา ๑ จตุ ธาตุววัตถาน ๑ แต่ไม่มีอัปปนาฯ ส่วนในกรรมฐาน ๓๐ ถ้วนที่เหลือ สำเร็จได้ทั้งอุปจารภาวนา ทั้งอัปปนาภาวนา ฯ ในกรรมฐาน แม้เหล่านั้น กรรมฐานมีรูปาวจรฌานได้ (คือประกอบในรูปาวจรฌาน, ให้สำเร็จรูปาวจรฌาน) ๒๖ อย่าง คือ กสิณ ๑๐ และอานาปานะ มีปัญจกฌานได้ (ประกอบในปัญจกฌาน) ฯ อสุภ ๑๐ และกายคตาสิต มีปฐมฌานได้, อัปปมัญญา ๒ ข้างต้นมีเมตตาเป็นต้นมีฌานหมวด ๔ ได้ อุเบกขา มีปัญจมฌานได้ ฯ ส่วนอรูป ๔ มีอรูปฌาน (ประกอบใน
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More