ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 169
ไม่ใช่กิริยาชวนะตั้งมั่น เพราะเกิดด้วยสันดานที่ต่างกัน อธิบายว่า และ
ผลทั้ง ๓ เบื้องต่ำ ย่อมสำเร็จได้ในวิถีสมาบัติ ฯ บทว่า สุขปุญญมหา
ความว่า อัปปนา ๒๓ ด้วยอำนาจฌานหมวด ๔ ที่เป็นโลกิยะและ
โลกุตตระ เว้นผลอันเลิศ วิบาก และกิริยา เกิดต่อจากุศลชวนะทั้งคู่ที่
มีเหตุ ๓ ซึ่งสหรคตด้วยโสมนัส, อัปปนาปัญจมฌาน ๑๒ (เว้นผลอัน
เลิศ วิบาก และกิริยา) อย่างนั้นเหมือนกัน เกิดจากอุเบกขาชวนะ
คือต่อจากกุศลชวนะมีเหตุ ๓ ทั้งคู่, อัปปนา ๘ ด้วยอำนาจกิริยาฌาน
ทั้ง 4 หมวดและผลอันเลิศทั้ง ๔ เกิดมีต่อจากกิริยาชวนะที่มีความสุข
(กิริยาชวนะที่สหรคตด้วยโสมนัส) คือต่อจากกิริยาชนะทั้งคู่ที่มีเหตุ
อัปปนา ๖ ด้วยสามารถแห่งรูปารูปกิริยาทั้ง ๕ ที่สหรคตด้วยอุเบกขา
และผลอันเลิศแต่อุเบกขาชวนะ คือต่อจากอุเบกขาชวนะทั้งคู่ฯ บทว่า
เอตฺถ คือ ในอธิการแห่งวิถีสังคหะ ๆ บทว่า สพฺพตฺถาปิ คือ ทั้ง
ในปัญจทวาร ทั้งในมโนทวาร ฯ
က
[อธิบายอารมณ์ของวิบากจิต]
က
บทว่า อิฏเฐ คือ ในอิฏฐมัชฌัตตารมณ์ (อารมณ์ที่ชอบใจปาน
กลาง)ฯ จริงอยู่ ท่านอาจารย์จักแยกกล่าวอติอิฏฐารมณ์ไว้ต่างหาก ฯ
สัมพันธ์ความว่า ในอิฏฐารมณ์ ปัญจวิญญาณ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ
และตทาลัมพนะ เป็นกุศลวิบาก ๆ แต่ในอิฏฐารมณ์สันตีรณะและ
ตทาลัมพนะ สหรคตด้วยอุเบกขาเท่านั้น เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึง
กล่าวว่า แต่ในอติอิฏฐารมณ์ สหรคตด้วยโสมนัสอย่างเดียว ฯ จริงอยู่
วิบาก (จิต) ซึ่งเป็นไปตามอานุภาพของกรรมประกอบด้วยเวทนาตาม