ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 82
เจตสิกธรรมทั้งหลาย ถ้าอธิบายว่า ประกอบด้วยจิต ด้วยสักว่า
บังเกิดขึ้นในที่เดียวกันเท่านั้นไซร้ ความที่แม้รูปธรรมทั้งหลายที่เกิด
พร้อมกับจิตในขณะนั้น ก็จะพลอยชื่อว่า ประกอบกับจิตไปด้วย
เพราะฉะนั้น จึงเพิ่ม เอกนิโรธ ศัพท์เข้าด้วย ฯ ถึงแม้เมื่อเป็นเช่นนี้
ๆ
(คือประกอบด้วยลักษณะ ๒ เกิดดับร่วมกัน) บัณฑิตไม่อาจห้ามความ
พ้องกันของ ๒ วิญญัติ (กายวิญญัติ วจีวิญญัติ) ที่ปริวัตรตมจิต ทั้ง
ไม่อาจห้ามความพ้องกันแห่งรูปธรรมทั้งหลาย แม้เกิดก่อนแล้วดับอยู่
หรือความดับในที่เดียวกัน เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่า เอกุปปาทนิโรธ
เพราะฉะนั้น จึงเพิ่ม เอกาลัมพน ศัพท์ เข้าด้วย ฯ และเพื่อจะ
แสดงว่า ธรรมที่มีลักษณะ ๓ อย่าง อย่างนี้ โดยนิยมเฉพาะ ที่มีวัตถุ
อันเดียวกันเท่านั้น จึงเพิ่ม เอกวัตถุ ศัพท์ เข้าด้วยดังนี้แล ฯ พอที่
ไม่ควรจะชักข้าเกิดไป ฯ
[อธิบายอัญญาสมานาเจตสิก]
મૈં
ๆ
บทว่า กå เป็นคำถามที่เป็นไปโดยความเป็นใคร่เพื่อจะกล่าว
สรุป (ธรรม ๕๒) และอาการคือสัมประโยค (ที่ท่านกล่าวไว้ในคำว่า
ประกอบกับจิต) ฯ ธรรมที่ชื่อว่า ผัสสะ ด้วยอรรถว่าถูกต้อง ๆ ผัสสะ
นี้นั้น มีการถูกต้องเป็นลักษณะ ฯ แท้จริง ผัสสะนี้แม้เป็นอรูปธรรม
ก็เป็นไปโดยอาการถูกตองอารมณ์ได้เท่านั้น แต่ความเป็นไปโดยอาการ
ถูกต้องแห่งผัสสะนั้น จึงเห็นตัวอย่าง เช่น คนอื่นมองดูคนรับประทาน