ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 323
โดยอรรถว่า ยังละไม่ได้ ชื่อว่าอนุสัย ฯ ก็การถึงกำลังแรงเป็นสภาพ
แผนกหนึ่งต่างหาก แห่งกิเลสมีกามราคะเป็นต้นเท่านั้น ไม่ทั่วไปแก่
กิเลสอื่น เพราะฉะนั้น ควรพอกันทีด้วยการโต้เถียง ฯ อนุสัยคือกาม
ราคะ ชื่อว่ากามราคานุสัย ฯ
[อธิบายสัญโญชน์]
ન
ธรรมที่ชื่อว่าสัญโญชน์ เพราะอรรถว่า ผูกโยง คือผูกมัด
(เหล่าสัตว์ไว้ในวัฏฏะ) ฯ ธรรมที่ชื่อว่ากิเลส เพราะอรรถว่า เป็น
เครื่องเศร้าหมองจิต คือเพราะอรรถว่า เป็นเครื่องเดือนร้อน หรือ
รบกวนจิต ฯ
บทว่า กามภวนาเมน คือ โดยชื่อแห่งอาลัมพนะ กล่าวคือ
กามภพ ฯ บทว่า ตถาปวตฺติ คือ ที่เป็นไปด้วยสามารถแห่งการยึดถือ
ศีลและพรตเป็นต้น โดยประการอย่างอื่น ๆ
อาสวะ โอฆะ โยคะ และคันถะ มีอย่างละ ๓ โดยวัตถุ คือ
โดยธรรม ตามนัยที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ อุปาทานก็ตรัสไว้ ๒ อย่าง
เช่นนั้น (คือโดยวัตถุ) ด้วยอำนาจแห่งตัณหาและทิฏฐิ นีวรณ์มี 4
เพราะแยกถนะและมิทธะ อุทธัจจะและกุกกุจจะ ออกเป็นแผนกหนึ่งๆ
อนุสัย มีเพียง 5 เท่านั้น เพราะรวมกามราคานุสัยและภวราคานุสัยเข้า
เป็นอันเดียวกัน โดยเป็นตัวตัณหาฯ สัญโญชน์ท่านกล่าวไว้ ๕ อย่าง
เพราะรวมสัญโญชน์ที่เป็นตัวตัณหาและเป็นตัวทิฏฐิ ซึ่งตรัสไว้ในพระ
สูตรและพระอภิธรรมทั้ง ๒ เข้าเป็นอย่างหนึ่ง ๆ ๆ ส่วนกิเลสมี ๑๐
๑. โยชนาประสงค์ความว่า คือ ฯ