อาสวาและการรวมของกิเลส อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 318
หน้าที่ 318 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของอาสวะซึ่งมีความหมายในการเป็นสิ่งที่หมักอยู่และไหลไปจากภพถึงภวัคคพรหม อธิบายถึงเขตแดนที่เกิดขึ้นจากมริยาทและอภิวิธี และการมีอาสวะเกี่ยวข้องกับโลภะและธรรมอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบถึงสภาวะที่เกิดขึ้นในบุคคล เช่นเดียวกับการทำให้เกิดความเมา มีการอธิบายลักษณะต่าง ๆ ของอาสวะและการเกิดขึ้นของกามาซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของอาสวะที่มีความเกี่ยวข้องกับกามราคะ

หัวข้อประเด็น

-อาสวะ
-โลภะ
-อภิธัมมัตถสังคหบาลี
-เขตแดน
-กามาสวะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อาสวา ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 318 [อธิบายอาสวะกิเลสเครื่องดอง ชื่อว่าอาสวะ โดยอรรถว่า หมักอยู่นาน เพราะไม่ปรากฏที่สุด เบื้องต้น หรือเพราะไหลจากทวาร ๖ มีจักขุทวารเป็นต้น ไปใน อารมณ์ทั้งหลาย ดุจของเน่าไหลออกจากแผลฉะนั้น ๆ อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าอาสวะ เพราะอรรถว่า ไหลไป คือเป็นไปจากภพจนกระทั่ง ภวัคคพรหม จากธรรมจนกระทั่งโคตรๆ ก็ อา อักษร ในคำว่า นี้ มีอวธิ (เขตแดน) เป็นอรรถ ฯ ก็เขตแดนมี ๒ อย่าง ด้วย อำนาจแห่งมริยาทและอภิวิธี ฯ ใน ๒ อย่างนั้น เขตแดนที่เป็น กระทำกิริยาให้อยู่เพียงภายนอก ดุจในอุทาหรณ์เป็นต้นว่า ฝนตกจน ถึงเมืองปาฏลีบุตร ชื่อว่ามริยาทะ (เขตไปถึง) ฯ เขตแดนที่เป็น ไปทำกิริยาให้แผ่ไปตลอด ดุจอุทาหรณ์เป็นต้นว่า เสียงขจรไปกระทั่ง ภวัคคพรหม ชื่อว่าอภิวิธี (เขตแผ่ไปตลอด) ฯ ก็ในบทว่า อาสวา นี้ จึงเห็น อา อักษร ลงในอภิวิธี ฯ จริงอย่างนั้น ธรรมมีโลภะเป็นต้น เหล่านี้ ย่อมเป็นไปได้ในภวัคคพรหม ซึ่งเป็นที่เกิดและเป็นอารมณ์กับ ในโคตรภูซึ่งเป็นอารมณ์ด้วย ฉะนี้แล ฯ บัณฑิตพึงทราบสันนิษฐานว่า ถึงเมื่อธรรมเหล่าอื่นมีมานะเป็นต้น ซึ่งไหลไปจนถึงภวังคคพรหม และจนถึงโคตรภูมีอยู่ ธรรมทั้ง ๓ มีโลภะเป็นต้นเหล่านี้เท่านั้น นิยมใช้โดยความเป็นอาสวะ เพราะซึบชาบเอิบอาบไปทั่ว ด้วยอำนาจ การถือว่าเป็นตนและเป็นของ ๆ ตน เพราะเหตุที่เป็นเช่นกับของหมัก ดอง ด้วยอรรถว่า ทำให้เมาฯ อาสวะคือกาม ชื่อว่ากามาสวะ ได้แก่กามราคะ ฯ ความกำหนัด
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More