ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 269
ทสกะเป็นต้น ชื่อว่ากลาป ฯ บทว่า ปวตฺติกกมโต ๑ ได้แก่ตามลำดับ
ความเกิดขึ้นแห่งรูปทั้งหลาย โดยความต่างแห่งภพ กาล และสัตว์ฯ
ธรรมทั้ง
[อธิบายมหาภูตรูปเป็นต้น]
ทั้งหลายมีปฐวีธาตุเป็นต้น ชื่อว่ามหาภูต เพราะอรรถว่า
เกิด คือปรากฏเป็นสภาพใหญ่ในสันดานที่มีใจครองและไม่มีใจครอง
ด้วยอำนาจแห่งธาตุพร้อมทั้งสัมภาระ ฯ อีกนัยหนึ่ง คนที่ชื่อว่ามหาภูต
เพราะอรรถว่า มีสิ่งที่ไม่เคยมีหรือมีสิ่งที่ไม่เป็นจริงมากหลาย โดยแสดง
สิ่งที่ไม่เคนมีแปลกๆ มากมาย หรือโดยแสดงสิ่งที่ไม่เป็นจริงหลากหลาย
ได้แก่พวกนักแสดงกลเป็นต้น ฯ ภูตรูปชื่อว่าเหมือนพวกนักแสดงกล
เป็นต้นเหล่านั้น เพราะตนเองเป็นสภาพไม่เขียวเป็นต้นเลย แต่แสดง
อุปาทายรูปมีสีเขียวเป็นต้น เพราะฉะนั้น ภูตรูปจึงชื่อว่ามหาภูตฯ อีก
อย่างหนึ่ง ธรรมคือภูตรูป ชื่อว่ามหาภูต เพราะอรรถว่า มีของไม่
เป็นจริงมากมาย เพราะหลอกลวงเหล่าสัตว์ โดยแสดงรูปสตรีและบุรุษ
ที่น่าชอบในเป็นต้น ดุจนางยักษิณีเป็นต้น ผู้ลวงเหล่าสัตว์ด้วยอาการ
มีสีและสัณฐานอันน่าชอบใจเป็นต้นฯ แม้ข้อนี้ ก็สมจริงดังคำที่ท่าน
อาจารย์พุทธทัตตะกล่าวไว้ว่า
ธรรมมีปฐวีธาตุเป็นต้น บัณฑิตเรียกว่า
มหาภูต เพราะปรากฏเป็นสภาพอันใหญ่
อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหมือนกับคนที่แสดง
สิ่งไม่เคยมีไม่เป็นจริงได้มากอย่าง เพราะ
หลอกลวงด้วยสิ่งที่ไม่เป็นจริง ฯ
ન