อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 388
หน้าที่ 388 / 442

สรุปเนื้อหา

ในเนื้อหาได้กล่าวถึงความหมายและหน้าที่ของกาล ซึ่งประกอบด้วยอดีต ปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงการแสดงถึงปัจจัยที่สำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกรรมและธรรม นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงบัญญัติและการแยกแยะนามและรูป รวมถึงการเข้าใจอรรถคำและความหมายที่สำคัญในการศึกษาอภิธรรม ท่านอาจารย์ยังได้ยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจในแนวทางต่าง ๆ ที่เสนอไว้ โดยมีการอ้างอิงถึงปัฏฐานและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

หัวข้อประเด็น

-อภิธรรมและการศึกษา
-หลักการแห่งกาลและปัจจัย
-ความสำคัญของนามและรูป
-การแสดงออกของกรรมและอารัมมณะ
-บัญญัติและอรรถในอภิธัมม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 388 กาล ด้วยสามารถแห่งธรรมประกอบด้วยอดีตกาล ๕ อย่าง ด้วยอำนาจ อนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย อาเสวนปัจจัย นัตถิปัจจัย และวิคตปัจจัย แห่งกรรมปัจจัย ซึ่งมี ๒ กาล ด้วยอำนาจแห่งอดีตกาลและปัจจุบันกาล แห่งอารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย และอุปนิสสนปัจจัย ซึ่งมี ๓ กาล และแห่งธรรม ๑๕ อย่างนอกนี้ ซึ่งมีกาลเป็นปัจจุบัน กับที่พ้นจากกาล ด้วยอำนาจแห่งนิพพานและบัญญัติ ทั้งที่เป็นภายใน ด้วยอำนาจปสาท รูปมีจักษุเป็นต้นและธรรมมีราคะและศรัทธาเป็นต้น ทั้งที่เป็นภายนอก จากภายในนั้น ด้วยอำนาจแห่งบุคคล ฤดู และโภชนะเป็นต้น เป็น สังขตะ โดยเป็นธรรมเกิดแต่ปัจจัย และเป็นอสังขตะ โดยเป็นปฏิปักษ์ ต่อสังขตะนั้นด้วย ตามกำเนิด คือความสมควรแก่ความเป็นไป โดยนัยตาม ที่กล่าวแล้วอย่างนี้ คือเช่นนี้ ชื่อว่าปัจจัย ท่านกล่าวไว้ว่า ๒๔ ปัจจัย ในปัฏฐานปกรณ์ คือในปกรณ์ชื่อว่าอนันตนัยปัฏฐาน และสมันตปัฏฐาน โดยประการทั้งปวง ตั้งอยู่โดยย่อ ๓ อย่าง ด้วยอำนาจแห่งบัญญัติ นาม และรูปฯ အ [อธิบายบัญญัติ] บทว่า ตตฺถ คือ บรรดาบัญญัตินามและรูปนั้น ๆ บัญญัติ มี ๒ อย่าง ต่างโดยเป็นอรรถที่บัณฑิตควรกล่าว และเป็นศัพท์กล่าว อรรถ (ต่างโดยเป็นความหมาย และสำเนียงเสียง) เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึงได้กล่าวคำเป็นต้นว่า ปญฺญาปิยตฺตา ดังนี้ ๆ คำว่า ปญฺญาปิยตฺตา ความว่า เพราะเป็นอรรถที่จะพึงรู้โดยประการนั้น ๆ ฯ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More