ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 266
สมุฏฐาน
ย่อมเป็นไปจนกะทั่วเป็นซากค
[สังคหคาถา]
ากศพ ฯ
รูปของเหล่าสัตว์ที่ตายแล้ว ย่อมเป็นไป
อย่างนั้นในภพอื่นอีกนั่นแล เริ่มต้นแต่
ปฏิสนธิ ด้วยประการดังที่กล่าวมาฉะนี้ ฯ
ก็ในรูปโลก บัณฑิตย่อมไม่ได้ฆานทสกะ ชิวหาทสกะ กายทสกะ
ภาวทสกะ และอาหารชกลาป เพราะฉะนั้น ในปฏิสนธิกาลแห่งสัตว์
ในรูปโลกเหล่านั้น ย่อมได้กลาปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน ๔ คือ ๓ ทสกะ
ด้วยสามารถแห่งจักขุทสกะ โสตทสกะ และวัตถุทสกะ กับชีวิตนวกะ
และในปวัติกาล ย่อมได้กลาปที่มีจิตและฤดูเป็นสมุฏฐาน ฯ แต่
สำหรับพวกอสัญญีสัตว์ ย่อมไม่ได้แม้จักขุทสกะ โสตทสกะ วัตถุทสกะ
และสัทททสกะเป็นต้น อนึ่ง ย่อมไม่ได้จิตตชรูปแม้ทั้งหมด เพราะ
ฉะนั้น ในปฏิสนธิกาลแห่งพวกอสัญญีสัตว์นั้น ย่อมได้ชีวิตนวกะอย่าง
เดียว และในปวัติกาล รูปมีฤดูเป็นสมุฏฐาน เว้นสัททนวกะ ยังเหลือ
อยู่แล ฯ บัณฑิตพึงทราบรูปปวัติ ๒ อย่าง ด้วยสามารถแห่งปฏิสนธิ
และปวัติ ในฐานะทั้ง ๓ กล่าวคือกามโลก รูปโลก และอสัญญีสัตว์
ด้วยประการดังกล่าวมา ฉะนี้แล ฯ
[สังคหคาถา]
ในกามภพ มีรูปภพ มีรูป ๒๓
เท่านั้น,
สำหรับพวกอสัญญีสัตว์ มีรูป ๑๗ เท่า
ในอรูปภพแม้รูปอะไร ๆ ไม่มีเลย, สัททรูป
วิการรูป ชรตารูปและมรณะ ย่อมไม่ได้