ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 324
อย่าง ทั้งโดยอำนาจพระสูตรทั้งโดยอำนาจพระอภิธรรม ฯ ข้าพเจ้า
ได้กล่าวการสงเคราะห์ (ประมวล) พวกบาปคืออกุศลไว้ ๕ อย่าง
ด้วยประการอย่างนี้แล ฯ ก็บรรดาธรรม ๑๔ อย่าง มีโลภะเป็นต้น
เหล่านี้
มีสังคหะ ๕ อย่างนี้ คือ โลภะและทิฏฐิสงเคราะห์
ลงใน ๕ ฐานและ ๘ ฐาน อวิชชาสงเคราะห์ลง
ใน ๓ ฐาน, ปฏิฆะสงเคราะห์ลงใน ๕ ฐาน
กังขาสงเคราะห์ลงใน ๔ ฐาน, มานะและอุทธัจจะ
สงเคราะห์ลงใน ๓ ฐาน, ถีนะสงเคราะห์ลงใน
๒ ฐาน, บาป คือ กุกกุจจะ มิทธะ อหิริกะ
อโนตตัปปะ อิสสะ และนิคูหนา (มัจฉริยะ)
สงเคราะห์ลงในฐานเดียว ฯ
[อธิบายองค์ฌานและองค์มรรค
คำที่ควรกล่าวในจำพวกเหตุ ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้วในหนหลัง
นั่นแล ฯ ธรรมชาตมีวิตกเป็นต้นเหล่านั้น ชื่อว่าฌาน เพราะอรรถว่า
เข้าไปเพ่ง กล่าวคือเข้าไปคิดคำนึกอารมณ์ และเพราะอรรถว่า เผาธรรม
ที่เป็นข้าศึกตามสมควร และชื่อว่าองค์ก็เพราะเป็นเครื่องที่จะกำหนด
คือรู้ โดยเป็นส่วนย่อมของหมวดธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น
จึงชื่อว่าฌานังคะ ฯ แม้เมื่อไม่มีหมวดธรรมที่พ้นไปจากส่วนย่อม วิตก
เป็นต้น บัณฑิตก็คงเรียกโดยความเป็นองค์ (ส่วน) แต่ละอย่างๆ
เหมือนองค์ (ส่วน) แห่งเสนาและองค์ (ส่วน) ของรถเป็นต้น
เป็นอย่างๆ ฉะนั้น โดยรวมกันเข้าก็เป็นฌานฯ ก็บรรดาฌานังคะ
ๆ