ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 165
วาร ๔ เหล่านี้ คำว่า วิสัยปวัติเป็นอารมณ์แม้ของโมฆวาร ดังนี้
สำเร็จแล้ว ฯ จริงอยู่ อติปริตตารมณ์ ย่อมเป็นปัจจัยของการบัญญัติว่า
โมฆวารได้ ฯ ก็เมื่อถือเอาความอย่างอื่น ปัจฉิมวาร ไม่มีความเป็นไป
બૈ
ๆ
ในอติปริตตารมณ์ เพราะภวังคจลนะเป็นไปในอารมณ์ของตน ๆ
เท่านั้น เพราะฉะนั้น คำว่า เป็นอารมณ์ของวาระทั้ง ๔ ก็จะเป็น
คำที่ถือเอาไม่ดี (กล่าวไว้ไม่ดี) ฉะนี้แล ฯ วิถีจิตเมื่อเกิดขึ้นใน
ปัญจทวารตามสมควร คือตามสมควรแก่ทวารนั้น ๆ ตามสมควรแก่
ปัจจัยนั้น ๆ และตามสมควรแก่อารมณ์เป็นต้นนั้น ๆ ย่อมมีเพียง ๓
ดวงเท่านั้นโดยไม่แปลกกัน คือ อาวัชชนะ ๑ ทัสสนะเป็นต้น ๑ สัม
ปฏิจฉันนะ ๑ สันตีรณะ ๑ โวฏฐัพพนะ ๑ ชวนะ ตทาวัมพนะ ๑
อีกนัยหนึ่ง จิตตุปบาท คือเฉพาะจิตที่กำลังเกิดขึ้นโดยอำนาจจิตที่เกิด
ทีละดวง ๆ มี ๑๔ ด้วยอำนาจอาวัชชนะเป็นต้นทั้ง ๕ ชวนะ ) และ
ตทาลัมพนะทั้ง ๒ แต่โดยพิสดารวิถีจิตมีถึง ๕๔ ดวง เพราะกามาวจร
จิตทั้งหมดทีเดียว เกิดในปัญจทวารนั้น ตามเหมาะสมแก่การเกิด ฯ
บทว่า เอตฺถ คือ ในวิสัยปวัติสังคหะ ฯ
[อธิบายวิภูตารมณ์และอวิภูตารมณ์
จิตที่เป็นไปในมโนทวาร มีอารมณ์เป็นทั้งอดีตและอนาคต เพราะ
ฉะนั้น นักปราชญ์จึงไม่สามารถทำการกำหนดอารมณ์ของจิตที่เป็นไปใน
มโนทาวารเหล่านั้น ด้วยสามารถอติมหันตารมณ์เป็นต้น เพราะฉะนั้น
เพื่อจะกำหนดอารมณ์นั้นด้วยอำนาจวิภูตะและอวิภูตะเท่านั้น ท่าน
อาจารย์จึงได้กล่าวคำเป็นต้นว่า ถ้าอารมณ์ปรากฏชัด ดังนี้ ฯ บทว่า