เจตสิกและรูปธรรมในอภิธัมมะ อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา หน้า 21
หน้าที่ 21 / 442

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับธรรมชาติที่ชื่อว่าเจตสิก ซึ่งกล่าวถึงความสัมพันธ์ของจิตในการรับอารมณ์ และการที่จิตและเจตสิกมีความสำคัญร่วมกันในการดำรงอยู่ นอกจากนี้ยังมีการอธิบายเกี่ยวกับรูปธรรมที่แปรผันไปตาม ปัจจัย เช่น ความเย็นและความร้อน ซึ่งอาจมีผลต่อการปรากฏของรูปธรรม พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นประธานและมีการแปรผันตามปัจจัยต่างๆ อย่างไร

หัวข้อประเด็น

-เจตสิก
-รูปธรรม
-อภิธัมมะ
-จิตและอารมณ์
-ความแปรผันตามปัจจัย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 21 ธรรมชาติที่ชื่อว่าเจตสิก เพราะอรรถว่า มีในจิต โดยมีความเป็นไป เนื่องด้วยจิตนั้น ๆ ความจริง เจตสิกนั้น เว้นจากจิตเสีย ไม่สามารถ จะรับอารมณ์ได้ เพราะเมื่อจิตไม่มีก็เกิดขึ้นไม่ได้ทั้งหมด ฯ ส่วนจิต แม้เว้นจากเจตสิกบางประการ ก็ยังเป็นไปได้อารมณ์ เพราะฉะนั้น เจตสิกนั่นแหละ จึงชื่อว่ามีความเป็นไปเนื่องกับจิต ฯ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นประธาน ดังนี้ 1 ด้วยบทว่า ทายาตวุฒิติตาย นี้ ท่านห้ามแม้ซึ่งความปฏิบัติผิด มี ความที่สุขเวทนาเป็นต้นเป็นสภาพหาเจตนามิได้ และเป็นสภาพเที่ยง เป็นต้นฯ อีกอย่างหนึ่ง ธรรมชาติที่ประกอบในจิต ชื่อว่าเจตสิก ฯ [ลักษณะรูปและนิพพาน] નૂ ธรรมชาติที่ชื่อว่ารูป เพราะอรรถว่าแปรผัน (สลาย) อธิบายว่า ย่อมถึงความวิการด้วยวิโรธปัจจัย มีเย็นและร้อนเป็นต้น หรืออันวิโรธ ปัจจัย มีเย็นและร้อนเป็นต้น ให้ถึงความวิการ ฯ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ย่อมแปรผันเพราะเย็นบ้าง ย่อมแปรผัน เพราะร้อนบ้าง ดังนี้ เป็น อาทิ ฯ ความเกิดขึ้นผิดแผกกัน ในเมื่อมี ความประชุมแห่งวิโรธิปัจจัยมีเย็นเป็นต้น ชื่อว่าความแปรผันในที่นี้ ฯ มีคำประท้วงสอดเข้ามาว่า ถ้าเช่นนั้น แม้อรูปธรรมก็บัญญัติว่า รูป ได้ฯ เฉลยว่า ไม่ได้ เพราะท่านประสงค์เอาความแปรผันที่ปรากฏ ชัดๆ โดยความสามารถแห่งศัพท์ มี สีต ศัพท์เป็นต้นฯ เมื่อจะ ถือเอาเนื้อความโดยประการอื่น ความแปรผันก็สำเร็จด้วยคำอันไม่ต่าง ๑. ขุ. ธ. ๒๕/๑๕ ๒. สํ. ขนฺธ. ๑๓/๑๐๕ ๆ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More